Skip ไปที่เนื้อหา

การวัดขนาดถุงยางอนามัย ชนิดถุงยางอนามัย ความหนาถุงยางอนามัย

Men's Health Forums | เว็บบอร์ดสุขภาพเพศชาย ผู้ชาย กระทู้สุขภาพผู้ชาย
  • ภาพประจำตัว
  • สุขภาพดี
  • โพสต์: 0
  • ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 18 มี.ค. 2011 9:10 am

การวัดขนาดถุงยางอนามัย ชนิดถุงยางอนามัย ความหนาถุงยางอนามัย

 โพสต์ สุขภาพดี    49282

เรื่องของการวัดขนาดถุงยางอนามัย ชนิดถุงยางอนามัย ความหนาถุงยางอนามัย
ชนิดของถุงยางอนามัย
ถุงยางอนมัยที่มีการผลิตจำหน่ายในโลกนี้มี 3 ชนิดตามวัสดุที่ใช้
1. ชนิดที่ทำจากลำไส้สัตว์ (Skin condom)
วัสดุที่ใช้ผลิตเป็นส่วนของลำไส้ส่วนล่างของแกะ ที่เรียก caecum มีใช้ในอเมริกา ราว ร้อยละ 5 เขาว่าใช้แล้วรู้สึกสบายยามสวมใส่ ไม่รัดรูป ให้ความรู้สึกสัมผัสที่ดีในขณะมีเพศสัมพันธ์ เชื่อว่าวัสดุจากลำไส้สัตว์สามารถสื่อผ่าน ความอบอุ่นของร่างกายสู่กันได้ และความชุ่มชื่นจากสารคัดหลั่งสามารถซึมผ่านเนื้อเยื่อได้ แต่เนื่องจากผิวของวัสดุมีรูพรุนเล็กๆที่ขวางได้เฉพาะตัวอสุจิเท่านั้น จึงไม่สามารถป้องกันเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ skin condom มีความหนา 0.15 มิลลิเมตร และไม่สามารถยืดตัวได้ (แต่มีความอ่อนนุ่ม) จึงสวมใส่แบบหลวมๆ ไม่รัดแนบแน่นแบบที่ทำจากยางธรรมชาติ ขนาดความกว้างเมื่อวางแบนราบ มีตั้งแต่ 62 มิลลิเมตร ถุง 80 มิลลิเมตร ถุงยางชนิดนี้ไม่มีการผลิตจำหน่ายในเมืองไทย ไม่ต้องถามหากันนะครับ (อ้อ..ราคาแพงมากด้วยครับ)
2. ชนิดที่ทำจากน้ำยางธรรมชาติ (rubber condom or latex condom)
จากวัสดุที่ทำนี่เองจึงเป็นที่มาของคำว่า "ถุงยางอนามัย" ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนคิดค้นชื่อนี้ ชอบครับ ถุงยางที่ถูกสุขอนามัย สะอาด ตรงและเหมาะสมจริงๆ แต่คนไทยไม่ชอบยาวๆ (ทีอย่างอื่นละก็เรียกร้องจะเอาแบบยาวๆ..เนาะ) กลับเรียกไปต่างๆนานา ปลอก นวม เสื้อ เสื้อฝน เสื้อเกราะ มีชัย ฯลฯ ฝรั่งก็มีชื่อเรียก นอกจาก Condom แล้ว ก็เรียก sheath, prophylactic, French letter, English cape เป็นต้น
ถุงยางอนามัยที่ทำจากยางธรรมชาตินี้มีราคาถูกกว่า บางกว่า ยืดหยุ่นได้ดีกว่าแบบทำจากลำไส้สัตว์ จึงมีขนาดความกว้างน้อยกว่า การสวมใส่ก็กระชับรัดแนบเนื้อ สามารถใช้ได้ทั้งเพื่อการคุมกำเนิด และป้องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ด้วย
3. ชนิดที่ทำจากPolyurethane (ถุงยางพล๊าสติก)
ปัจจุบันได้มีการนำวัสดุอื่นมาผลิตเป็นถุงยางอนามัยด้วย เช่น สาร Polyurethane เพราะถุงยางอนามัยที่ทำจากยางธรรมชาติก็มีข้อด้อย เช่นแพ้ รั่วได้ ใช้สารหล่อลื่นบางชนิดไม่ได้ กลิ่นไม่ค่อยชวนดม เรียกถุงยางอนามัยชนิดนี้ว่า ถุงยางพลาสติก (plastic condom) แต่เขาว่าถุงยางชนิดนี้ให้ความรู้สึกที่ดีกว่าแบบที่ทำจากน้ำยางธรรมชาติ คงทนกว่าแบบยางธรรมชาติ สามารถใช้สารหล่อลื่นที่ทำจากผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีได้ เท่าที่มีจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา ใช้ชื่อ AVANTI เป็นของ DUREX

แบบของถุงยางอนามัย
ถุงยางอนามัยเมื่อเป็นสินค้าก็ย่อมมีการตลาด จึงต้องมีแบบต่างๆ ให้ลูกค้าเลือกมากมาย ตามความต้องการของลูกค้ารวมทั้งทำเพื่อเป็นจุดขายเพื่อการโฆษณาด้วย ถุงยางอนามัยที่ทำจากน้ำยางธรรมชาติชนิดเข้มข้นมีรูปแบบที่เกี่ยวกับลักษณะสำคัญ 6 เรื่องคือ
1. สารหล่อลื่น มีทั้งแบบแห้งคือไม่มีสารหล่อลื่น และแบบที่มีสารหล่อลื่น แบบที่มีสารหล่อลื่นก็ยังแบ่งเป็นแบบสารหล่อลื่นธรรมดา และแบบที่มีตัวยาฆ่าเชื้อ เช่น nonnoxynol-9 หรือ N-9 เป็นต้น
2. ลักษณะของก้นถุง แบ่งเป็นแบบก้นถุงมนแบบถุงกาแฟ (plain) และแบบถุงมีกระเปาะ หรือติ่ง (reservoir-ended or teat) เพื่อเป็นที่เก็บน้ำอสุจิ ซึ่งแบบนี้จะเป็นที่นิยมมากกว่า และวิธีการสวมใส่ก็แตกต่างกัน
3. รูปทรงของถุง แบ่งเป็นแบบทรงกระบอกตรงๆ (straight) และแบบลูกคลื่น (rippled)
4. ลักษณะผิว แบ่งเป็นแบบผิวเรียบ (smooth) และแบบผิวไม่เรียบ (textured)
5. สี อันนี้คงรู้จักกันดี มีทั้งแบบสีธรรมชาติของยาง หรือ เจ็ดสีมีชัย ประกายรุ้ง
6. กลิ่นและรส มีให้เลือกทั้งกลิ่นรสมินต์ กลิ่นสตรอเบอรี่ กลิ่นมะนาว บางยี่ห้อมีกลิ่นทุเรียนด้วย การเติมกลิ่นและรสนี้เพื่อคนที่ใช้การร่วมเพศทางปาก (oral sex)

ขนาดของถุงยางอนามัย
คุณภาพมาตรฐานและข้อกำหนดของถุงยางอนามัยตามประกาศ ของกระทรวงสาธารณสุขปี 2535 ได้กำหนดประเภทของถุงยางอนามัย ที่ทำจากน้ำยางธรรมชาติ เป็น 13 ประเภท ตามขนาดความกว้าง คือตั้งแต่ขนาด 44 มิลลิเมตร จนถึงขนาด 56 มิลลิเมตร และกำหนดความยาวของถุงยางวัดจากปลายเปิดจนถึงปลายปิด ไม่รวมส่วนที่เป็นติ่งหรือกระเปาะ ต้องไม่น้อยกว่า 160 มิลลิเมตร ซึ่งกำหนดตามมาตรฐานขององค์การกำหนดมาตรฐานระหว่างประเทศ (ISO) ปี ค.ศ. 1990

สำหรับตลาดในเมืองไทยเท่าที่มีจำหน่าย ก็มีอยู่ 2 ขนาด คือขนาดใหญ่กับขนาดยักษ์ (คนไทยไม่ชอบอะไรที่เล็กๆ)
ขนาดใหญ่ (ความจริงมันก็ขนาดเล็กนั่นแหละ) หรือขนาด 49 มิลลิเมตร มีขนาดความกว้างเมื่อวางถุงยางที่คลี่แล้วแบนราบกับพื้น วัดจากขอบหนึ่งถึงขอบหนึ่ง 49 มิลลิเมตร มีขนาดความยาวไม่น้อยกว่า 160 มิลลิเมตร ขนาดนี้เหมาะกับคนไทยมากที่สุด
ขนาดยักษ์ หรือขนาด 52 มิลลิเมตร ความกว้างเมื่อวางแบนราบ เท่ากับ 52 มิลลิเมตร ความยาวเท่ากับ 180 มิลลิเมตร

ความหนาของถุงยางอนามัย
อย่างที่พูดไว้ข้างต้น ถุงยางอนามัยที่ทำจากลำไส้สัตว์หนาตั้ง 0.15 มิลลิเมตร แต่สำหรับถุงยางอนามัยที่ทำจากน้ำยางธรรมชาติจะบางกว่านั้นมาก เพราะเหนียวและยืดได้มากกว่า ของญี่ปุ่นทำได้บางที่สุดในโลก คือ บางแค่ 0.02มิลลิเมตร ส่วนของอเมริกากำหนดมาตรฐานไว้ที่ ไม่น้อยกว่า 0.03 มิลลิเมตร ของอังกฤษเจมส์บอนด์ กำหนดไว้หนาไม่เกิน 0.04 มิลลิเมตร ขององค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ ระหว่าง 0.05 - 0.08 มิลลิเมตร แล้วของพี่ไทยล่ะ? ไม่มีครับ ไม่มีกำหนดความหนาไว้ในประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ปี 2535 แต่เท่าที่เคยมีการกำหนดมาตรฐานของถุงยางอนามัยที่ประกาศ ในการจัดซื้อถุงยางอนามัยไว้ใช้ในโครงการวางแผนครอบครัว เมื่อปี 2526 ได้กำหนดความหนา ไม่มากกว่า 0.06 มิลลิเมตร

การวัดขนาดถุงยางอนามัย ชนิดถุงยางอนามัย ความหนาถุงยางอนามัย
  • ภาพประจำตัว
  • สุขภาพดี
  • โพสต์: 0
  • ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 18 มี.ค. 2011 9:10 am

Re: การวัดขนาดถุงยางอนามัย ชนิดถุงยางอนามัย ความหนาถุงยางอนา

 โพสต์ สุขภาพดี    49282

  • ภาพประจำตัว
  • สุขภาพดี
  • โพสต์: 0
  • ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 18 มี.ค. 2011 9:10 am

Re: การวัดขนาดถุงยางอนามัย ชนิดถุงยางอนามัย ความหนาถุงยางอนา

 โพสต์ สุขภาพดี    49282

โดยทั่วไปถุงยางอนามัยจะมีขนาดตั้งแต่ 44-56 มม. ความหนา 0.05-0.08 มม. โดยมีความยาวเฉลี่ยประมาณ 200 ม.ม. แต่ที่วางจำหน่ายสำหรับคนไทย ส่วนใหญ่มี 2 ขนาด คือ 49 ม.ม. และ 52 ม.ม. การวัดหาขนาดของถุงยางอนามัยที่เหมาะสมกับผู้ใช้ ให้วัดขนาดเส้นรอบวงของอวัยวะเพศแล้วหารด้วยสองก็จะได้ขนาดในการเลือกซื้อ ถุงยางอนามัย เช่น ถ้าเส้นรอบวงของอวัยวะเพศ คือ 152 ม.ม. หารด้วยสองเท่ากับ 76 ม.ม. เมื่อซื้อถุงยางอนามัย คุณควรเลือกซื้อแบบ 52 ม.ม. เพราะถุงยางอนามัยจะมีการขยายตัวอีกทำให้ผู้ใช้สามารถใช้ขนาดนี้ได้โดยไม่ อึดอัด
สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่สำคัญมากในการเลือกซื้อถุงยางอนามัย คือ การสังเกตบนฉลากของถุงยางอนามัย การดูเครื่องหมาย อย.พร้อมเลขทะเบียน การดูวันที่ผลิต หรือ วันหมดอายุ ของถุงยางอนามัย การหล่อลื่น/การใช้สารฆ่าเชื้อ และเมื่อยังไม่ได้ใช้ก็ควรเก็บในที่ไม่ร้อน ไม่โดนแดด และไม่เก็บในลักษะที่มีการกดทับ เช่น ในกระเป๋ากางเกงด้านหลัง
:arrow: ยืดอกพกถุง ร่วมกัน ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และป้องกันการตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจ
  • ภาพประจำตัว
  • สุขภาพดี
  • โพสต์: 0
  • ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 18 มี.ค. 2011 9:10 am

Re: การวัดขนาดถุงยางอนามัย ชนิดถุงยางอนามัย ความหนาถุงยางอนา

 โพสต์ สุขภาพดี    49282

ข้อควรระวังในการใช้ถุงยางอนามัย มีดังนี้ คือ
- ห้ามใช้ร่วมกับสารหล่อลื่นที่มีน้ำมันเป็นตัวละลาย เช่น น้ำมันปรุงอาหาร น้ำมันทาผิว เบบี้ออยส์ วาสลีน เป็นต้น เนื่องจากจะทำลายเนื้อยางของถุงยางอนามัยให้เสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว
- ห้ามใช้นานเกิน 30 นาที และ ห้ามนำกลับมาใช้งานซ้ำอีก
- ห้ามใช้ถุงยางอนามัยที่มีการฝังมุก มีขนม้าแซม ฯลฯ เพราะไม่สามารถใช้คุมกำเนิดหรือป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ใด นอกจากนี้อาจจะทำได้เกิดอันตรายและติดเชื้อได้ง่ายอีกด้วย
ถุงยางอนามัย ไม่เหมาะสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักเนื่องจากการมีเพศสัมพันธ์ทาง ทวารหนักจะเกิดแรงเสียดสีมาก และเกิดเลือดออกได้ง่ายจึงไม่ปลอดภัยพอ
สำหรับ วิธีการใช้ให้ใส่เมื่ออวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่เท่านั้น บีบปลาย กะเปาะไล่ลมแล้วสวมลงบนอวัยวะเพศรูดลงมาจนสุด เมื่อเสร็จการร่วมเพศ ต้องรีบดึงอวัยวะเพศออกขณะยังแข็งตัวอยู่ มิฉะนั้นถุงยางอาจจะหลุดอยู่ในช่องคลอดได้ ที่สำคัญถุงยางอนามัยใช้แล้วต้องทิ้ง คือใช้ได้ครั้งเดียว จะไม่นำกลับมาใช้ใหม่ การทิ้งควรทำอย่างมิดชิดไม่อุจาดสายตา และไม่แพร่เชื้อโรค โดยใช้กระดาษห่อแล้วทิ้งลงถังขยะให้เรียบร้อย
  • ภาพประจำตัว
  • สุขภาพดี
  • โพสต์: 0
  • ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 18 มี.ค. 2011 9:10 am

Re: การวัดขนาดถุงยางอนามัย ชนิดถุงยางอนามัย ความหนาถุงยางอนา

 โพสต์ สุขภาพดี    49282

สาเหตุการแตกของถุงยางอนามัยและความล้มเหลวของการใช้ถุงยางอนามัย
แม้ได้ใช้อย่างถูกวิธี ระมัดระวังอย่างดี ก็ยังแตกได้ครับ มีรายงานตั้งแต่ร้อยละ 1 ถึง 12 เฉลี่ยก็ร้อยละ 5 แต่ถ้าร่วมเพศทางทวารหนัก จะหนักกว่านี้ จากการศึกษาของอีตา steiner แกพบว่า ครึ่งหนึ่งจะแตกตรงส่วนปลายปิด หนึ่งในสี่แตกตรงตัวถุง และอีกหนึ่งในสี่ แตกตรงปลายเปิด แต่ที่สำคัญคือ กว่าจะรู้ว่าแตก ก็เสร็จกิจไปแล้ว ถึงสองในสามของการแตก นี่ซิ ซวยชนิดไม่บอก

แล้วถุงยางอนามัยมันแตกได้ยังไง
1. ใช้ไม่ถูกวิธี
2. พฤติกรรมทางเพศ ที่ไม่เหมาะสม เช่น ร่วมเพศอย่างเมามันรุนแรง ยาวนาน หรือมีการเสียดสีอย่างมาก หรือช่องคลอดที่แห้งยังไม่พร้อมจะมีเพศสัมพันธ์ หรือช่องคลอดแห้งในสตรีวัยทอง

3. การใช้สารหล่อลื่นที่ไม่เหมาะสม สารหล่อลื่นที่ใช้กับถุงยางอนามัย ที่ทำจากยางธรรมชาติ จะต้องมีส่วนประกอบที่เป็นน้ำหรือซิลิโคนเท่านั้น ห้ามใช้สารหล่อลื่นที่ทำจากน้ำมันหรือ ผลิตภัณฑ์ที่มาจากน้ำมันโดยเด็ดขาด (petroleum and derivatives) รวมทั้งน้ำมันพืชด้วยนะครับ ยางกับน้ำมันไม่ถูกกันครับ จาการทดลองในห้องปฏิบัติการ พบว่า ความแข็งแรงของถุงยางอนามัยลดลงถึงร้อยละ 90 เมื่อถุงยางอนามัย สัมผัสกับสารหล่อลื่นที่มีส่วนประกอบของน้ำมัน (เพียงแค่15นาที)
 การวัดขนาดถุงยางอนามัย ชนิดถุงยางอนามัย ความหนาถุงยางอนามัย
 Men's Health Forums | เว็บบอร์ดสุขภาพเพศชาย ผู้ชาย กระทู้สุขภาพผู้ชาย
ตอบกลับโพสต์
เครื่องกดนับแยกชนิดเม็ดเลือดขาว Genius Count DiffCount