ปัจจุบันประเทศไทยมีอัตราการคลอดก่อนกำหนดสูงถึง 9.91-11.63% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก

กระทรวงสาธารณสุขและภาคีเครือข่ายจึงร่วมมือกันผลักดันมาตรการลดอัตราให้ต่ำกว่า 8%
โดยสาเหตุหลักมาจาก

มาฝากครรภ์ช้า

ไม่ได้รับการตรวจคัดกรองความเสี่ยงในช่วงต้นครรภ์

ขาดความรู้เรื่องอันตรายและสัญญาณเตือน
กรมอนามัย จึงอยากชวนทุกคนร่วมเป็น ชุมชน เรียนรู้ ร่วมแรง รณรงค์ ป้องกันภาวะคลอดก่อนกำหนด “เพราะลูก คือ ของขวัญและความสุขของครอบครัว” ด้วยการตระหนักรู้และถ่ายทอดข้อมูลพฤติกรรมเสี่ยงที่ให้กับคุณแม่ตั้งครรภ์ ครอบครัว และชุมชน เพื่อร่วมกันเฝ้าระวังและรู้จักสัญญาณเตือนที่ต้องรีบพบแพทย์ทันที ดังนี้
พฤติกรรมเสี่ยงคลอดก่อนกำหนด

การทำงานโดยขาดความระมัดระวัง

ทำงานบ้าน (ซักผ้า ทำความสะอาด ทำกับข้าว

อุ้มลูก ดูแลคนป่วย) หรือ

รับจ้าง ค้าขาย เกษตรกรรม

ความเครียดสะสมเป็นเวลานาน

เหนื่อยล้าจากการทำงาน

อารมณ์หดหู่ หงุดหงิด

ฮอร์โมนเครียดส่งผลต่อการเปิดปากมดลูก

พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง

เปลี่ยนท่านั่งยอง-ยืนบ่อยครั้ง

นั่ง/ยืนทำงานนานๆ

ขึ้นบันไดวันละหลายครั้ง

นั่งรถเดินทางไกล ขับรถบนเส้นทางขรุขระ

ขับขี่มอเตอร์ไซด์/จักรยาน

มีเพศสัมพันธ์ที่กระทบหน้าท้อง

กลั้นปัสสาวะ

อาบน้ำในแหล่งน้ำไม่สะอาด → เสี่ยงติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะและช่องคลอด
เมื่อมีอาการผิดปกติเหล่านี้ ท้องแข็ง/ท้องปั้น/เจ็บหน่วงท้องน้อย/เลือดออก/น้ำใสไหลจากช่องคลอด (แม้ว่าจะไม่เจ็บครรภ์) ต้องรีบพบแพทย์ทันที เพื่อประเมินภาวะคลอดก่อนกำหนด
“ฝากครรภ์เร็ว ฝากครรภ์ครบ ดูแลครรภ์อย่างใส่ใจ” เพื่อให้ทุกชีวิตเริ่มต้นอย่างแข็งแรง

ด้วยรักและห่วงใย อยากให้คนไทยรอบรู้เรื่องสุขภาพ ด้วยหลัก 3 รู้อยู่รอด เพื่อการรู้ถึงสถาณะสุขภาพที่ดีของตัวเองได้ทุกวัยในทุกวัน จาก กรมอนามัย
ข้อมูล-กองส่งเสริมความรอบรู้และสื่อสารสุขภาพ กรมอนามัย