
นพ.กิตติวัฒน์ มะโนจันทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวว่า กระจกตาเป็นส่วนที่อยู่ด้านหน้าสุดของลูกตา มีหน้าที่รับแสงและโฟกัสภาพเข้าสู่จอประสาทตา เมื่อกระจกตาเกิดบาดแผล ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ก็ส่งผลกระทบต่อการมองเห็นทันที สาเหตุหลักของการเกิดแผลที่กระจกตาที่พบบ่อยคือ การติดเชื้อ โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียที่มากับคอนแทคเลนส์ที่ไม่สะอาด ซึ่งมักพบในผู้ที่มีบาดแผลที่กระจกตาอยู่ก่อนแล้ว นอกจากนี้ยังมีการบาดเจ็บทางกายภาพ เช่น เศษฝุ่น หรือวัตถุแปลกปลอมเข้าตา ซึ่งอาจนำไปสู่การอักเสบและติดเชื้อในที่สุด
นพ.วีรภัทร อุดมวงศ์ จักษุแพทย์ด้านกระจกตาและการแก้ไขสายตาผิดปกติ กล่าวเสริมว่า การใส่คอนแทคเลนส์เป็นเวลานาน หรือไม่ถอดเลนส์เลยทั้งวันทั้งคืน โดยเฉพาะใส่นอน เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดแผลที่กระจกตา เนื่องจากกระจกตาจะขาดออกซิเจนและความชื้น นำไปสู่การเสื่อมสภาพของเซลล์ผิวกระจกตา เกิดแผลถลอกที่กระจกตา เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียและอะมีบาในน้ำที่ไม่สะอาด ซึ่งอาจทำให้เกิดแผลลุกลามได้อย่างรวดเร็ว และรุนแรงถึงขั้นตาบอดถาวรได้ การรักษาแผลที่กระจกตาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของแผล หากเป็นแผลตื้นจากการระคายเคืองหรือการขีดข่วนเล็กน้อย อาจใช้ยาฆ่าเชื้อหยอดตาร่วมกับน้ำตาเทียม และแนะนำให้พักการใช้คอนแทคเลนส์จนกว่าแผลจะหายสนิท แต่หากเป็นแผลติดเชื้อหรือแผลลึก จักษุแพทย์จะต้องตรวจเชื้อและให้ยาฆ่าเชื้อที่จำเพาะมากขึ้น และหยอดบ่อยขึ้น ซึ่งหากกระจกตาเกิดเสียหายรุนแรงถึงขั้นพร่ามัวถาวร อาจพิจารณาการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา การเกิดแผลที่กระจกตาเป็นปัญหาสุขภาพตาที่ควรใส่ใจ หากละเลยอาจนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรได้ ดังนั้นสิ่งสำคัญการใส่คอนแทคเลนส์อย่างปลอดภัยควรมีวินัยในการใช้งาน ถอดล้างและแช่น้ำยาอย่างถูกต้อง หลีกเลี่ยงการใส่ข้ามคืน และไม่ควรใส่เลนส์นานเกินวันละ 8 ชั่วโมง หากมีอาการผิดปกติ เช่น เคืองตา แสบตา ตามัว หรือปวดตา ควรรีบพบจักษุแพทย์ทันที เพื่อป้องกันไม่ให้แผลที่กระจกตากลายเป็นปัญหาถาวรในระยะยาว การป้องกันที่ดีที่สุดคือการดูแลสุขอนามัยของดวงตา หลีกเลี่ยงการสัมผัสตาโดยตรง หมั่นตรวจสุขภาพตา และหากมีอาการผิดปกติ ควรรีบพบจักษุแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม