Skip ไปที่เนื้อหา

คำถามจากคุณแม่ตั้งครรภ์ 2

Mom & Child's Health Forums | เว็บบอร์ดสุขภาพแม่และเด็ก กระทู้สุขภาพแม่และเด็ก
  • ภาพประจำตัว
  • nongjubjub
  • โพสต์: 0
  • ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 16 พ.ย. 2012 12:59 pm

คำถามจากคุณแม่ตั้งครรภ์ 2

 โพสต์ nongjubjub    1247



Q : มีความเครียดสูงมากในระยะนี้ และเจ็บท้องน้อยด้านซ้ายขณะเครียดด้วยค่ะ จะเป็นอันตรายอย่างไรบ้างกับเด็กคะ ?
A : การตั้งครรภ์มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนร่างกายหลายอย่าง ถ้าสตรีตั้งครรภ์ไม่ทราบถึงการเปลี่ยนแปลง อาจทำให้เกิดความกังวลหรือความเครียดได้ง่าย นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับทารกในครรภ์ว่าจะสมบูรณ์ดีหรือไม่ ล้วนทำให้สตรีตั้งครรภ์เกิดความเครียดทั้งสิ้น สตรีตั้งครรภ์ที่เกิดความเครียด ไม่ทำให้เกิดความพิการต่อทารกในครรภ์ แต่มีรายงานว่าทำให้เกิดภาวะการคลอดก่อนกำหนด การเกิดภาวะทารกเติบโตช้าในครรภ์ และการให้กำเนิดทารกที่มีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ปกติ โดยความเครียดอาจทำให้สตรีตั้งครรภ์ขาดความเอาใจใส่ หรือขาดแรงจูงใจในการรับประทานอาหาร เพื่อบำรุงทารกในครรภ์ และการพักผ่อนที่น้อยลงเนื่องจากความเครียด อาการเครียดและอาการปวดท้องน้อยที่เกิดพร้อมกันอาจไม่สัมพันธ์กัน แต่ถ้าปวดท้องบริเวณลิ้นปี่ด้านซ้าย ซึ่งเป็นตำแหน่งของกระเพาะอาหารอาจเป็นการปวดจากโรคกระเพาะ เพราะความเครียดจะทำให้หลั่งกรดออกมาในกระเพาะอาหารมากกว่าปกติ ส่วนการตั้งครรภ์เองทำให้การปิดของกล้ามเนื้อหูรูดระหว่างหลอดอาหาร และกระเพาะอาหารปิดไม่สนิท เกิดการไหลย้อนกลับของกรด ก็จะมีอาการจุกแน่น เจ็บลิ้นปี่ได้ แต่ถ้าเจ็บท้องน้อยบริเวณหน้าขาหนีบทั้งสองข้าง ซึ่งเป็นตำแหน่งของเอ็นยึดมดลูก เกิดจากการที่มดลูกขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้เอ็นบริเวณนี้รับน้ำหนักมาก บอกถึงการทำกิจกรรมที่มากเกินไปในแต่ละวัน เช่น การเดิน ยืน นานๆ หรือการลุกที่ผิดท่า ทำให้เกิดอาการเจ็บบริเวณนี้ได้

Q : อายุครรภ์ได้กี่เดือนถึงจะมีน้ำนม ตอนนี้มีตุ่มขึ้นบริเวณรอบบีบออกมาแล้ว ลักษณะคล้ายสิวจะเป็นอะไรไหมคะ
A : การเปลี่ยนแปลงของเต้านมระหว่างการตั้งครรภ์ ขนาดของเต้านมจะใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับการสร้างน้ำนม อิทธิพลจากฮอร์โมนการตั้งครรภ์ทำให้สีผิวบริเวณลานเต้านม (Areolar) เข้มขึ้นและมีลักษณะไม่เรียบเนื่องจากมีต่อมไขมัน อยู่มาก และถ้ามีการผลิตไขออกมามากเกินไป อาจทำให้เกิดการคั่ง ลักษณะเหมือนสิวที่เกิดจากการอุดตันของต่อมไขมันบริเวณใบหน้า ไม่ถือว่าผิดปกติ และไม่ควรบีบทิ้ง เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบ หรือการติดเชื้อได้ นอกจากนี้ตรงบริเวณหัวนม (Nipple) อาจเห็นรูเปิดเล็กๆ 15-20 รู ซึ่งก็คือท่อน้ำนมนั่นเอง ปกติการสร้างน้ำนมจะเริ่มสร้างประมาณ 1-2 วัน หลังคลอด โดยปริมาณการสร้างจะมากขึ้นเมื่อลูกมาดูดกระตุ้น ทำให้ร่างกายหลั่งสารกระตุ้นการสร้างน้ำนม (Prolactin) ออกมากระตุ้นการสร้างน้ำนม และยังหลั่งสาร Oxytocin ออกมาเพื่อช่วยในการบีบรัดตัวของมดลูก ป้องกันการตกเลือดหลังคลอด และการที่มดลูกหดตัวทำให้กลับเข้าอู่เร็วขึ้น มีบางรายที่เริ่มมีน้ำนม ตั้งแต่ต้นไตรมาสที่ 3แต่ไม่แนะนำให้บีบ หรือปั๊มกระตุ้น เพราะอาจทำให้มดลูกบีบตัว เกิดการคลอดก่อนกำหนดได้

อ่านบทความนี้ เพิ่มเติมได้ที่ คำถามจากคุณแม่ตั้งครรภ์ 2
 คำถามจากคุณแม่ตั้งครรภ์ 2
 Mom & Child's Health Forums | เว็บบอร์ดสุขภาพแม่และเด็ก กระทู้สุขภาพแม่และเด็ก
เครื่องกดนับแยกชนิดเม็ดเลือดขาว Genius Count DiffCount