น้ำยาล้างจาน
การบริโภคนั้นเป็นกิจกรรมหลัก ของมนุษย์เรา ไม่ว่าชาติใดภาษาใดก็ตาม และสิ่งหนึ่งที่สร้างภาระตามมาหลังการบริโภคก็คือ การทำความสะอาดภาชนะใส่อาหารซึ่งหลายๆคนอยากจะหลีกเลี่ยง เพราะรู้สึกเบื่อคราบไขมันที่ติดภาชนะล้างออกยาก บางครอบครัวจึงตัดปัญหานี้โดยออกไปกินอาหารนอกบ้านก็มี
ถ้าเรามองย้อน กลับไปยุคโบร่ำโบราณสมัยคุณปู่คุณทวดแล้ว การล้างจานไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด แม้ว่าจะไม่มีน้ำยาล้างจานดังเช่นปัจจุบัน สิ่งที่ใช้ทำความสะอาดภาชนะต่างๆนั้นได้มาจากวัสดุธรรมชาติ เช่น กาบมะพร้าว น้ำซาวข้าว และขี้เถ้า โดยกาบมะพร้าวและขี้เถ้านั้นใช้ขัดถูทำความสะอาดคราบเขม่าควันที่ติดตามก้น หม้อและกระทะ ส่วนน้ำซาวข้าวนั้นใช้ทำความสะอาดคราบไขมันต่างๆ แต่สมัยที่ต้องการความรวดเร็วเช่นปัจจุบันนี้ การทำความสะอาดแบบดังกล่าวค่อยๆเลือนหายไป ผู้คนต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น อีกทั้งต้องทำงานแข่งกับเวลาอยู่เสมอ กอรปกับความช่างคิดของมนุษย์จึงได้มีการคิดค้นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดภาชนะ ขึ้นมาหลายชนิด จนหลายท่านอาจจะรู้สึกว่าไม่รู้จะเลือกใช้ยี่ห้อไหนดี
ควรใช้อะไรล้างภาชนะ
ถึง วันนี้อาจมีบางท่านรู้สึกสับสนระหว่างผงซักฟอกกับน้ำยาล้างจาน โดยเข้าใจว่าสามารถใช้ผงซักฟอกแทนน้ำยาล้างจานได้ เพราะใช้ทำความสะอาดได้เหมือนกัน แต่จริงๆแล้วผงซักฟอกและน้ำยาล้างจานผลิตขึ้นมาด้วยวัตถุประสงค์ที่แตกต่าง กัน ผงซักฟอกใช้ขจัดคราบสิ่งสกปรก ทำให้ผ้าขาว ในขณะที่น้ำยาล้างจานใช้ทำความสะอาดขจัดคราบไขมันที่ติดภาชนะต่างๆ
ในผงซักฟอกได้มีการผสมสารเรืองแสง เพื่อทำให้เสื้อผ้าดูสดใสเป็นประกายน่าสวมใส่ด้วย ถ้าคุณนำผงซักฟอกมาใช้ล้างจาน ไม่ว่าคุณจะมั่นใจว่าล้างอย่างสะอาดเพียงใดก็ตาม สารเรืองแสงก็จะติดอยู่กับจานชามซึ่งอันที่จริงไม่จำเป็นต้องมีความเรืองแสง เลย และเมื่อคุณกินอาหารจาก ?จานเรืองแสง? สารนี้จะติดกับอาหารแล้วลงไปสู่กระเพาะของคุณ แล้วมันก็จะเข้าไปสะสมในร่างกายทำให้เกิดอันตรายในระยะยาวได้
น้ำยาล้างจานที่ดีควรเป็นอย่างไร เราควรใช้อะไรล้างภาชนะจานชาม
เว็บบอร์ดสุขภาพ ข่าวสารความรู้สุขภาพ กระทู้สุขภาพ เคล็ดลับสุขภาพ ถาม-ตอบปัญหาสุขภาพ
- Warisara
- โพสต์: 0
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. 17 มี.ค. 2011 12:55 am
- Warisara
- โพสต์: 0
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. 17 มี.ค. 2011 12:55 am
Re: น้ำยาล้างจานที่ดีควรเป็นอย่างไร เราควรใช้อะไรล้างภาชนะจา
น้ำยาล้างจานที่ดีควรเป็นอย่างไร
คุณลักษณะ ทั่วไปของน้ำยาล้างจานควรเป็นของเหลวเนื้อเดียวกัน ไม่มีสิ่งแปลกปลอมปรากฏ อาจมีสารแต่งสีได้ แต่ต้องเป็นสีที่กระทรวงสาธารณสุขอนุญาตให้ใช้ได้ในเครื่องสำอาง สามารถละลายน้ำได้ดีและเมื่อใช้ตามคำแนะนำที่ระบุไว้ที่ฉลากแล้ว ต้องไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพหลังจากเก็บไว้นาน 1 ปีในภาชนะบรรจุปิดสนิทและภาวะปกติ น้ำยาล้างจานต้องมีคุณลักษณะที่ต้องการคงเดิมทุกประการ สำหรับภาชนะบรรจุต้องทำด้วยวัตถุที่ไม่ทำปฏิกิริยากับน้ำยาล้างถ้วยชาม ปิดได้สนิท และแข็งแรงเพียงพอที่จะป้องกันการรั่วอันเนื่องมาจากการขนส่งหรือใช้งาน
ทุกครั้งที่คุณจะซื้อน้ำยาล้างถ้วยชามให้คุณสังเกตเครื่องหมายและฉลากข้างขวด ที่ฉลากข้างขวดอย่างน้อยต้องมีเลข อักษร หรือเครื่องหมายแจ้งรายละเอียดต่อไปนี้ให้เห็นง่ายและชัดเจน
1. คำว่า "น้ำยาล้างจาน"
2. ปริมาณสุทธิ
3. ชื่อผู้ผลิตหรือโรงงานที่ผลิต หรือชื่อผู้จัดจำหน่าย หรือเครื่องหมายการค้า และสถานที่ตั้ง
4. รุ่นหรือรหัสรุ่นที่ทำ
5. คำแนะนำวิธีใช้
ใน กรณีที่ใช้ภาษาต่างประเทศต้องมีความหมายตรงกับภาษาไทยที่กำหนดไว้ข้างต้น ผู้ที่ผลิตผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่เป็นไปตามมาตรฐานนี้ จะแสดงเครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากคณะ กรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแล้วเท่านั้น
นอกจากนั้นยังมี ประเด็นที่คุณควรพิจารณาร่วมด้วยเมื่อตัดสินใจจะซื้อน้ำยาล้างถ้วยชามก็คือ ควรใช้น้ำยาล้างจานชนิดน้ำ ด้วยเหตุผลที่ว่า ขั้นตอนในการผลิตประหยัดพลังงานมากกว่าน้ำยาล้างจานชนิดผงหรือครีม เพราะชนิดหลังนี้ต้องนำมาผ่านกระบวนการเขย่าและเป่าให้แห้ง ในขณะที่น้ำยาล้างจานชนิดน้ำใช้กรรมวิธีเพียงแค่นำมาผ่านกระบวนการความร้อนเท่านั้น ตรงจุดนี้คุณจะสามารถช่วยอนุรักษ์พลังงานไฟฟ้าไปได้ส่วนหนึ่งหากใช้น้ำยา ล้างจานชนิดน้ำ
น้ำยาล้างจานบางชนิดมักจะโฆษณาถึงประสิทธิภาพในแง่ที่ มีสารปรุงแต่งกลิ่นและสีเป็นผลไม้ชนิดต่างๆ และมีสารเพิ่มฟองเพื่อประสิทธิภาพในการชำระล้าง แต่จริงๆแล้วสารเหล่านี้ไม่ได้มีคุณสมบัติช่วยในการชำระล้างคราบสกปรกแต่ อย่างใด เพียงแต่เป็นสารสังเคราะห์ที่ปรุงแต่งให้มีสีและกลิ่นดูน่าใช้มากขึ้นเท่า นั้น
อีกประการหนึ่งที่สำคัญคือ ไม่ควรใช้น้ำยาล้างจานที่ผสมสารฟอสเฟต หรือถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆก็ควรใช้น้ำยาล้างจานที่ผสมสารฟอสเฟตในปริมาณ เจือจาง เพราะฟอสเฟตไม่มีคุณสมบัติในการชำระล้างสิ่งสกปรกแต่อย่างใด อีกทั้งยังทำลายแหล่งน้ำทำให้เน่าเสียเร็วขึ้น แต่ที่ผู้ผลิตต้องใส่ฟอสเฟตในผงซักฟอกและน้ำยาล้างจาน ก็ด้วยเหตุผลที่สภาพความกระด้างของน้ำในแต่ละพื้นที่ไม่เท่ากัน ผู้ผลิตจึงต้องผสมฟอสเฟตลงไปเพื่อช่วยให้สามารถใช้ได้กับทุกสภาวะของน้ำ เนื่องจากฟอสเฟตเป็นสาระสำคัญที่ช่วยลดแรงตึงผิวของน้ำ ทำให้น้ำกระด้างลดลง พลังการซักล้างดีขึ้นนั่นเอง
ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นเป็นเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ที่เรานำมาฝากแม่บ้านชาวหมอชาวบ้าน ต่อไปถ้าจะตัดสินใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดใด ควรจะต้องพิจารณาให้ละเอียดอีกสักนิด หันมาดำรงชีวิตกันอย่างระมัดระวัง ชีวิตของคุณจะมีคุณค่าและมีความสุขได้อีกยาวนานทีเดียว
ที่มา นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่ม :158
บทความโดย แสงเดือน สุวรรณรัศมี
คุณลักษณะ ทั่วไปของน้ำยาล้างจานควรเป็นของเหลวเนื้อเดียวกัน ไม่มีสิ่งแปลกปลอมปรากฏ อาจมีสารแต่งสีได้ แต่ต้องเป็นสีที่กระทรวงสาธารณสุขอนุญาตให้ใช้ได้ในเครื่องสำอาง สามารถละลายน้ำได้ดีและเมื่อใช้ตามคำแนะนำที่ระบุไว้ที่ฉลากแล้ว ต้องไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพหลังจากเก็บไว้นาน 1 ปีในภาชนะบรรจุปิดสนิทและภาวะปกติ น้ำยาล้างจานต้องมีคุณลักษณะที่ต้องการคงเดิมทุกประการ สำหรับภาชนะบรรจุต้องทำด้วยวัตถุที่ไม่ทำปฏิกิริยากับน้ำยาล้างถ้วยชาม ปิดได้สนิท และแข็งแรงเพียงพอที่จะป้องกันการรั่วอันเนื่องมาจากการขนส่งหรือใช้งาน
ทุกครั้งที่คุณจะซื้อน้ำยาล้างถ้วยชามให้คุณสังเกตเครื่องหมายและฉลากข้างขวด ที่ฉลากข้างขวดอย่างน้อยต้องมีเลข อักษร หรือเครื่องหมายแจ้งรายละเอียดต่อไปนี้ให้เห็นง่ายและชัดเจน
1. คำว่า "น้ำยาล้างจาน"
2. ปริมาณสุทธิ
3. ชื่อผู้ผลิตหรือโรงงานที่ผลิต หรือชื่อผู้จัดจำหน่าย หรือเครื่องหมายการค้า และสถานที่ตั้ง
4. รุ่นหรือรหัสรุ่นที่ทำ
5. คำแนะนำวิธีใช้
ใน กรณีที่ใช้ภาษาต่างประเทศต้องมีความหมายตรงกับภาษาไทยที่กำหนดไว้ข้างต้น ผู้ที่ผลิตผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่เป็นไปตามมาตรฐานนี้ จะแสดงเครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากคณะ กรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแล้วเท่านั้น
นอกจากนั้นยังมี ประเด็นที่คุณควรพิจารณาร่วมด้วยเมื่อตัดสินใจจะซื้อน้ำยาล้างถ้วยชามก็คือ ควรใช้น้ำยาล้างจานชนิดน้ำ ด้วยเหตุผลที่ว่า ขั้นตอนในการผลิตประหยัดพลังงานมากกว่าน้ำยาล้างจานชนิดผงหรือครีม เพราะชนิดหลังนี้ต้องนำมาผ่านกระบวนการเขย่าและเป่าให้แห้ง ในขณะที่น้ำยาล้างจานชนิดน้ำใช้กรรมวิธีเพียงแค่นำมาผ่านกระบวนการความร้อนเท่านั้น ตรงจุดนี้คุณจะสามารถช่วยอนุรักษ์พลังงานไฟฟ้าไปได้ส่วนหนึ่งหากใช้น้ำยา ล้างจานชนิดน้ำ
น้ำยาล้างจานบางชนิดมักจะโฆษณาถึงประสิทธิภาพในแง่ที่ มีสารปรุงแต่งกลิ่นและสีเป็นผลไม้ชนิดต่างๆ และมีสารเพิ่มฟองเพื่อประสิทธิภาพในการชำระล้าง แต่จริงๆแล้วสารเหล่านี้ไม่ได้มีคุณสมบัติช่วยในการชำระล้างคราบสกปรกแต่ อย่างใด เพียงแต่เป็นสารสังเคราะห์ที่ปรุงแต่งให้มีสีและกลิ่นดูน่าใช้มากขึ้นเท่า นั้น
อีกประการหนึ่งที่สำคัญคือ ไม่ควรใช้น้ำยาล้างจานที่ผสมสารฟอสเฟต หรือถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆก็ควรใช้น้ำยาล้างจานที่ผสมสารฟอสเฟตในปริมาณ เจือจาง เพราะฟอสเฟตไม่มีคุณสมบัติในการชำระล้างสิ่งสกปรกแต่อย่างใด อีกทั้งยังทำลายแหล่งน้ำทำให้เน่าเสียเร็วขึ้น แต่ที่ผู้ผลิตต้องใส่ฟอสเฟตในผงซักฟอกและน้ำยาล้างจาน ก็ด้วยเหตุผลที่สภาพความกระด้างของน้ำในแต่ละพื้นที่ไม่เท่ากัน ผู้ผลิตจึงต้องผสมฟอสเฟตลงไปเพื่อช่วยให้สามารถใช้ได้กับทุกสภาวะของน้ำ เนื่องจากฟอสเฟตเป็นสาระสำคัญที่ช่วยลดแรงตึงผิวของน้ำ ทำให้น้ำกระด้างลดลง พลังการซักล้างดีขึ้นนั่นเอง
ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นเป็นเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ที่เรานำมาฝากแม่บ้านชาวหมอชาวบ้าน ต่อไปถ้าจะตัดสินใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดใด ควรจะต้องพิจารณาให้ละเอียดอีกสักนิด หันมาดำรงชีวิตกันอย่างระมัดระวัง ชีวิตของคุณจะมีคุณค่าและมีความสุขได้อีกยาวนานทีเดียว
ที่มา นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่ม :158
บทความโดย แสงเดือน สุวรรณรัศมี
น้ำยาล้างจานที่ดีควรเป็นอย่างไร เราควรใช้อะไรล้างภาชนะจานชาม
เว็บบอร์ดสุขภาพ ข่าวสารความรู้สุขภาพ กระทู้สุขภาพ เคล็ดลับสุขภาพ ถาม-ตอบปัญหาสุขภาพ
เว็บบอร์ดสุขภาพ ข่าวสารความรู้สุขภาพ กระทู้สุขภาพ เคล็ดลับสุขภาพ ถาม-ตอบปัญหาสุขภาพ
- แพทย์เตือน “กระดาษเมา สติกเกอร์เมา” ออกฤทธิ์หลอนประสาทอย่างรุนแรง อันตรายถึงชีวิต (35 views)
- หน้าฝนต้องระวัง โรคไข้ปวดข้อยุงลาย (ชิคุนกุนยา) โรคร้ายที่ยุงลายเป็นพาหะ (178 views)
- โรคตายอดฮิตที่พบบ่อยในผู้สูงวัย รู้ทัน ป้องกันได้ (66 views)
- RSV (Respiratory Syncytial Virus) ไวรัสตัวร้าย อันตรายต่อเด็ก (45 views)
- ผ่าตัดเข่าเสื่อมใส่ข้อเข่าเทียม เพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้จริงไหม? (87 views)
- สถาบันประสาทวิทยาเผยความก้าวหน้าการผ่าตัด บายพาสหลอดเลือดสมอง รักษาโรคหลอดเลือดสมองตีบชนิดโรคโมยาโมย่า (150 views)
- ภาวะม่านตาอักเสบ ส่อสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม (74 views)
- 5 อาการสำคัญ ของโรคไข้เลือดออก รู้ทัน... ป้องกันได้ ไม่ต้องเสี่ยง (172 views)