Skip ไปที่เนื้อหา

วันหัวใจโลก Use Heart For Action ใช้ใจ เปลี่ยนพฤติกรรม ป้องกันโรคหัวใจ

เว็บบอร์ดสุขภาพ ข่าวสารความรู้สุขภาพ กระทู้สุขภาพ เคล็ดลับสุขภาพ ถาม-ตอบปัญหาสุขภาพ
  • สุขภาพดี.com
  • โพสต์: 0
  • ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 11 เม.ย. 2016 2:16 pm

วันหัวใจโลก Use Heart For Action ใช้ใจ เปลี่ยนพฤติกรรม ป้องกันโรคหัวใจ

 โพสต์ สุขภาพดี.com    867

วันหัวใจโลก Use Heart For Action
ใช้ใจ เปลี่ยนพฤติกรรม ป้องกันโรคหัวใจ
ด้วยหลัก 4อ 2ส 1น
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมรณรงค์เนื่องในวันหัวใจโลก วันที่ 29 กันยายน 2567 ตามคำขวัญสมาพันธ์หัวใจโลก (World Heart Federation, WHF) คือ USE HEART FOR ACTION : ใช้ใจ เปลี่ยนพฤติกรรม ป้องกันโรคหัวใจ เพราะโรคหัวใจเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
World Heart Day
นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ทุกวันที่ 29 กันยายน ของทุกปี เป็นวันหัวใจโลก (World Heart Day) ในปี 2567 นี้ มุ่งเน้นให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกันโรคหัวใจ ข้อมูลจากสมาพันธ์หัวใจโลก (World Heart Federation, WHF) ระบุว่า โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของโลก ทั่วโลกพบผู้เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดมากกว่า 20.5 ล้านคนต่อปี และร้อยละ 85 ของการเสียชีวิตเกิดจากอาการหัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมอง สำหรับประเทศไทยข้อมูลจากระบบคลังข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข (Health Data Center) ปี 2566 พบว่ามีจำนวนผู้ป่วยสะสมด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดมากกว่า 2.5 แสนราย และเสียชีวิต ด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดมากถึง 4 หมื่นราย เฉลี่ยชั่วโมงละ 5 คน อาการของโรคหัวใจและหลอดเลือดแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย เช่น เจ็บหน้าอก จุกแน่นกลางอก เจ็บร้าวหัวไหล่ซ้าย แขน หรือกราม ใจสั่น เหงื่อแตก เป็นลม หมดสติ เป็นต้น หากประชาชนมีอาการเจ็บแน่นหน้าอกควรรีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุด และสำหรับผู้ป่วยที่อยู่บ้านคนเดียวหรือญาติไม่สามารถพาไปโรงพยาบาลได้ สามารถโทรขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วน 1669 เพราะถ้าหัวใจขาดเลือดจนหัวใจหยุดทำงาน ผู้ป่วยจะหัวใจหยุดเต้นและหมดสติ หากผู้ป่วยหมดสติแล้ว ควรรีบทำการกดหน้าอกผู้ป่วย ติดเครื่องกระตุ้นหัวใจ AED และโทรเรียกรถพยาบาลที่สายด่วน 1669 ทันที
ปัจจัยเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ
นพ.อดิสรณ์ วรรธนะศักดิ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การเสียชีวิตส่วนใหญ่จากโรคหัวใจและหลอดเลือดเกิดจากปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ ระดับความดันโลหิตสูง ระดับไขมันในเลือดสูง ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ภาวะอ้วนและน้ำหนักเกิน ซึ่งส่วนใหญ่สามารถป้องกันหรือควบคุมได้โดยโรคนี้มักเป็นโรคแทรกซ้อนในผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง ความเสี่ยงจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อผู้ป่วยมีความเครียดหรือไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดหรือระดับความดันโลหิตได้ตามเป้าหมายการรักษาของแพทย์ โรคหัวใจและหลอดเลือดสามารถป้องกันได้มากถึง 80% โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยหลัก 4อ. 2ส. 1น. ดังนี้ อาหาร เลือกทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ลดอาหารที่มีรสหวาน มัน เค็ม อารมณ์ ควบคุมอารมณ์ ความเครียด ทำจิตใจให้แจ่มใส ออกกำลังกาย ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน หรือสะสม 150 นาทีต่อสัปดาห์ อากาศ หลีกเลี่ยงมลพิษทางอากาศและอากาศที่มีฝุ่นควัน ไม่สูบบุหรี่และไม่ดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ นอนหลับ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 7-9 ชั่วโมงต่อวัน
Use Heart For Action
นพ.กฤษฎา หาญบรรเจิด ผอ.กองโรคไม่ติดต่อ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมควบคุมโรค กองโรคไม่ติดต่อ รณรงค์สร้างความตระหนักรู้เรื่องโรคหัวใจเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการป้องกันโรคหัวใจโดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผ่านช่องทางต่างๆ ของกองโรคไม่ติดต่อทั้งโซเชียลมีเดียและโซเชียลเน็ตเวิร์ก นอกจากนี้ การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นที่ช่วยป้องกันหรือรักษาติดตามการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ดีในระยะยาว ดังนั้นประชาชนกลุ่มวัยทำงานอายุระหว่าง 25-59 ปี สามารถตรวจคัดกรองปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ตรวจวัดความดันโลหิต และตรวจเลือดคัดกรองโรคเบาหวาน ได้จากระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือประกันสังคมตามสิทธิการรักษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และหากได้รับการวินิจฉัยเป็นความดันโลหิตสูงหรือเบาหวานแล้ว ควรนัดหมายเข้ารับบริการ ตรวจติดตามและรับยาอย่างต่อเนื่อง ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ระดับไขมันในเลือด และความดันโลหิตให้อยู่ในค่าปกติ หรือตามเป้าหมายการรักษาของแพทย์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
 วันหัวใจโลก Use Heart For Action ใช้ใจ เปลี่ยนพฤติกรรม ป้องกันโรคหัวใจ
 เว็บบอร์ดสุขภาพ ข่าวสารความรู้สุขภาพ กระทู้สุขภาพ เคล็ดลับสุขภาพ ถาม-ตอบปัญหาสุขภาพ
เครื่องกดนับแยกชนิดเม็ดเลือดขาว Genius Count DiffCount