Skip ไปที่เนื้อหา

ภัยร้ายที่มากับหน้าฝน RSV อาจมาด้วย ปกป้องลูกน้อยจากไวรัสร้ายให้ดี

Mom & Child's Health Forums | เว็บบอร์ดสุขภาพแม่และเด็ก กระทู้สุขภาพแม่และเด็ก
  • ภาพประจำตัว
  • ยาชาวบ้าน
  • โพสต์: 0
  • ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 18 มี.ค. 2011 7:07 am

ภัยร้ายที่มากับหน้าฝน RSV อาจมาด้วย ปกป้องลูกน้อยจากไวรัสร้ายให้ดี

 โพสต์ ยาชาวบ้าน    2058

ไวรัส RSV คืออะไร
ไวรัส RSV หรือ Respiratory Syncytial Virus
เป็นสาเหตุของการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ ตั้งแต่ส่วนบนจนถึงส่วนล่าง ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการหลอดลมฝอยอักเสบ (Acute bronchiolitis) และอาจทำให้ปอดอักเสบติดเชื้อ (pneumonia) โดยเฉพาะผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กที่มีโรคประจำตัว คลอดก่อนกำหนด มีโรคปอดเรื้อรัง โรคทางระบบประสาท โรคที่ทำให้เด็กขับเสมหะได้ไม่ดี กล้ามเนื้ออ่อนแรง โรคหัวใจเรื้อรัง เมื่อติดเชื้อไวรัส RSV จะมีอาการรุนแรงมากขึ้น เพราะกลไกในการไอและขับเสมหะของร่างกายไม่ดีเท่าที่ควร
ไวรัส RSV จะพบมากและเจริญเติบโตได้ดีในช่วงที่มีอากาศชื้นโดยเฉพาะหน้าฝนตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงกันยายน ไวรัส RSV ติดต่อกันได้ง่ายๆ เพียงการสัมผัสใกล้ชิด หรือสัมผัสสารคัดหลั่งทางตาหรือจมูก และทางลมหายใจ ดังนั้นในเด็กหรือผู้ใหญ่ที่ป่วยเป็นหวัดจึงเสี่ยงต่อการรับและแพร่กระจายเชื้อไวรัสนี้มาก และเด็กเล็กสามารถได้รับเชื้อไวรัสได้ตั้งแต่แรกเกิดเลยทีเดียว โดยเชื้อ ไวรัส RSV มีระยะฟักตัวประมาณ 2 ? 6 วัน
เด็กที่เป็นหวัดธรรมดาจะมีอาการเป็นแบบหวัด มีไข้ ไอ จาม น้ำมูกไหล กินน้ำ กินนมได้ อาจกล่องเสียงอักเสบ หลอดลมอักเสบ ไอแบบมีเสมหะร่วมด้วย ซึ่งจะหายได้ใน 5-7 วัน แต่อาการที่เกิดจากไวรัส RSV คือ อาการหอบ เหนื่อย บางคนหอบมากจนเป็นโรคปอดบวม หายใจหอบจนอกบุ๋ม หายใจแรงจนหน้าอกโป่ง หายใจออกลำบาก หรือหายใจมีเสียงวี้ดแบบหลอดลมฝอยอักเสบ บางรายไอมากจนอาเจียน ซึมลง ตัวเขียว กินข้าว กินน้ำ กินนมไม่ได้

เมื่อเด็กที่ติดเชื้อไวรัส RSV มักจะมีอาการเริ่มแรกเหมือนไข้หวัด คือ มีไข้ ไอ น้ำมูกไหล คัดจมูก แต่สิ่งที่พ่อแม่สามารถสังเกตเห็นว่าลูกติดเชื้อ RSV คือ

- ตัวร้อนมีไข้
- ไอมากผิดปกติ เสมหะเยอะและเหนียวข้น
- อาการหายใจหอบเหนื่อย หน้าอกบุ๋ม
- ปีกจมูกบานเวลาหายใจ
- อาจมีเสียงหายใจดังวี้ด ให้ได้ยิน
- ซึม และไม่กินอาหารและน้ำ
- ริมฝีปากมีสีเขียวคล้ำ หรือปลายมือปลายเท้า เนื่องจากร่างกายขาดออกซิเจน

ปัจจุบันการตรวจวินิจฉัยยืนยันทำได้โดยการตรวจหาเชื้อจากน้ำมูก (RSV Ag Rapid Test)ได้ผลเร็วในเวลาไม่นาน

การรักษา ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนที่ใช้ป้องกัน ไวรัส RSV และไม่มียารักษาการติดเชื้อไวรัส RSV โดยเฉพาะ ดังนั้นเมื่อเด็กได้รับไวรัสนี้จึงต้องรักษาตามอาการ เช่น ระวังการขาดน้ำเพราะจะยิ่งทำให้เสมหะเหนียวข้นและเชื้อลงปอด อาจต้องใช้ยาพ่นร่วมกับ oxygen เพื่อช่วยขยายหลอดลม รับประทานยาลดไข้ตามอาการทุก 4 ? 6 ชั่วโมงพร้อมกับเช็ดตัวลดไข้ นอนพักผ่อนเยอะๆ ร่างกายก็จะฟื้นตัวอย่างช้าๆ ใช้เวลาประมาณ 7 ? 14 วัน จึงจะหาย แต่หลังจากหายแล้ว หลอดลมและถุงลมฝอยของเด็กจะมีอาการอักเสบได้ง่ายเมื่อติดเชื้อครั้งใหม่ อันนี้คุณพ่อคุณแม่ต้องดูแลเป็นพิเศษเพือ่ระวังป้องกันเด็กให้ดีที่สุด ที่สำคัญคือโรคนี้ติดได้ทุกกลุ่มอายุต้องดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ
 ภัยร้ายที่มากับหน้าฝน RSV อาจมาด้วย ปกป้องลูกน้อยจากไวรัสร้ายให้ดี
 Mom & Child's Health Forums | เว็บบอร์ดสุขภาพแม่และเด็ก กระทู้สุขภาพแม่และเด็ก
เครื่องกดนับแยกชนิดเม็ดเลือดขาว Genius Count DiffCount