Skip ไปที่เนื้อหา

วิธีใช้ฟ้าทะลายโจร ป้องกันรักษาไข้หวัด 2009 ด้วยสมุนไพรไทย

เว็บบอร์ดสุขภาพ ข่าวสารความรู้สุขภาพ กระทู้สุขภาพ เคล็ดลับสุขภาพ ถาม-ตอบปัญหาสุขภาพ
  • SukapabDee.com
  • โพสต์: 0
  • ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 13 มี.ค. 2011 12:39 am

วิธีใช้ฟ้าทะลายโจร ป้องกันรักษาไข้หวัด 2009 ด้วยสมุนไพรไทย

 โพสต์ SukapabDee.com    4700

วิธีการใช้ฟ้าทะลายโจร ป้องกันรักษาไข้หวัด 2009 ด้วยสมุนไพรไทย
แนะนำสมุนไพรฟ้าทะลายโจร มีประสิทธิผลดีในการลดไข้ แก้อักเสบ แก้เจ็บคอ แก้ปวดศีรษะ รักษาโรคไซนัสอักเสบ และใช้ได้ผลดีในผู้ป่วยไข้หวัด-เจ็บคอ

ในระหว่างการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่ 2009 หรือไข้หวัดไข้ตามฤดูกาล ประชาชนก็ควรจะดูแลป้องกันสุขภาพตนเองไม่ให้เป็นโรคหวัด ด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนอย่างเพียงพอ ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่

การใช้สมุนไพรไทยก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เพราะสมุนไพรไทยมีศักยภาพในการป้องกันรักษาโรคหวัดได้ คือ สมุนไพรฟ้าทะลายโจร มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Andrographis paniculata Wall. Ex Nees เป็นพืชสมุนไพรที่ปลูกง่าย และพบทั่วไปในประเทศไทย มีสรรพคุณ แก้ไข้ แก้เจ็บคอ และแก้อาการท้องเดิน โดยสามารถใช้ได้ทั้งต้นสดหรือแห้ง

ปัจจุบันฟ้าทะลายโจรถูกบรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติและได้มีการกำหนดมาตรฐาน เพื่อการควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบไว้แล้วในตำรามาตรฐานยาสมุนไพรไทย (Thai Herbal Pharmacopoeia)

จากรายงานการศึกษาทางคลินิกว่าสมุนไพรฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรที่มีประสิทธิผลดีในการลดไข้ แก้อักเสบ แก้เจ็บคอ แก้ปวดศีรษะ รักษาโรคไซนัสอักเสบและใช้ได้ผลดีในผู้ป่วยที่มีอาการไข้หวัดและเจ็บคอแม้แต่ ในประเทศปัจจุบันจีนมีการใช้ยาเม็ดฟ้าทะลายโจรรักษาโรคทางเดินหายใจส่วนต้นติดเชื้อ และรักษาต่อมทอนซิลอักเสบเฉียบพลัน

ความปลอดภัยของสมุนไพรฟ้าทะลายโจรนั้น ได้มีการศึกษาแล้วพบว่า ปลอดภัย สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันและป้องกันการเกิดอันตรายต่อเซลล์ตับ (Hepatoprotective effect) ได้อีกด้วย จึงควรส่งเสริมให้มีการนำสมุนไพรฟ้าทะลายโจรมาใช้ป้องกันหรือบรรเทาอาการหวัดเบื้องต้น

ประชาชนสามารถใช้ผงฟ้าทะลายโจรแห้งขนาด 1 กรัมหรือบรรจุ 2 แคปซูลๆ ละ 500 มิลลิกรัม รับประทานวันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน เพื่อแก้ไข้หรือเจ็บคอ สำหรับข้อพึงระวังในการใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจร คือหญิงมีครรภ์และให้นมบุตรไม่ควรใช้ นอกจากนี้ในบางรายอาจเกิดอาการแพ้ ซึ่งอาจทำให้จุกเสียด มึนงง เบื่ออาหาร หรือหากใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดอาการชาหรือแขนขาอ่อนแรง

เชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ เป็นไวรัสชนิดหนึ่ง โดยจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูกและตา ซึ่งการไอและจามแต่ละครั้งทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายออกไปได้ไกลถึง 1-5 เมตร และลอยปะปนอยู่ในอากาศทำให้ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดมีโอกาศได้รับเชื้อ ดังนั้นผู้ป่วยควรใส่หน้ากากอนามัยเมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่นในที่สาธารณะ เพราะจากงานวิจัยขององค์การอนามัยโลกพบว่า การใส่หน้ากากอนามัยสามารถลดการแพร่กระจายของเชื้อที่ติดมากับละอองฝอยได้ ถึงร้อยละ 80

สำหรับประชาชนทั่วไปไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัย เพียงพกผ้าเช็ดหน้าหรือกระดาษทิชชู่ติดตัว หากพบคนไอหรือจามให้นำผ้าเช็ดหน้าหรือกระดาษทิชชู่ปิดปากและจมูกของตนเอง เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสได้ ทั้งนี้เชื้อไวรัสดังกล่าวเป็นเชื้อที่ตายง่าย สามารถใช้น้ำผงซักฟอกเช็ดทำความสะอาดหรือทำลายเชื้อได้ ดังนั้นเมื่อใช้หน้ากากอนามัยหรือผ้าเช็ดหน้าแล้ว นำมาซักด้วยผงซักฟอกแล้วสามารถนำกลับมาใช้ได้อีก

ฟ้าทะลายโจร เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับเป็นสมุนไพรไทยมานาน ปัจจุบันมีการนำฟ้าทะลายโจรมาทำเป็นยาลูกกลอน หรือ ใส่แคปซูลเพื่อความสะดวกในการกิน มีผู้ทำการศึกษาค้นคว้าวิจัยถึงสรรพคุณยา และได้พบสารเคมีในส่วนต่าง ๆ ของพืชอยู่หลายชนิด รวมทั้งสาร Andrographolide ที่เป็นตัวยาสำคัญที่มีอยู่ในทุกส่วนคือ ราก ต้น ใบ และได้ทำการศึกษาทดลองเพื่อจำแนกโรคที่รักษาได้ดีให้ชัดเจน ซึ่งพบว่าฟ้าทะลายโจรรักษาโรคได้หลายโรค อาทิ แก้ติดเชื้อทำให้ปวดท้อง ท้องเสีย บิด และแก้กระเพาะอักเสบ ลำไส้อักเสบ แก้อาการไอ เจ็บคอ หรือคออักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบ หลอดลมอักเสบ แก้ไข้ทั่วไป เป็นยาขมเจริญอาหาร เป็นต้น

ฟ้าทะลายโจร ได้รับการรับรองจากองค์ การอนามัยโลก (WHO) ว่าเป็นสมุนไพรที่ช่วย บรรเทาอาการหวัด(หวัด2009) และเสริมภูมิต้านทานดีกว่าการใช้ ยาปฏิชีวนะในคนที่เป็นหวัดบ่อย ๆ ร้อนในบ่อย ๆ เนื่องจากร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ภูมิต้านทาน อ่อนลง การรับประทานสมุนไพรฟ้าทะลายโจรจะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ทำให้ไม่เป็นหวัดง่าย ร้อน ในจะหายไป และสมุนไพรฟ้าทะลายโจรดีกว่ายาปฏิชีวนะ ตรงที่ไม่เกิดการง่วงนอน ไม่เกิดการดื้อยา และยังป้องกันตับจากสารพิษหลายชนิด เช่น จากยา แก้ไข้พาราเซตามอล หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เป็นส่วนผสม
  • SukapabDee.com
  • โพสต์: 0
  • ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 13 มี.ค. 2011 12:39 am

Re: วิธีใช้ฟ้าทะลายโจร ป้องกันรักษาไข้หวัด 2009 ด้วยสมุนไพรไ

 โพสต์ SukapabDee.com    4700

วิธีใช้ฟ้าทะลายโจร ป้องกันรักษาไข้หวัด 2009 ด้วยสมุนไพรไทย
ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการรักษาโรคไข้หวัดหวัด และไข้หวัด 2009

1. รักษาอาการไข้เจ็บคอ (Pharyngotonsillitis)
ผู้ป่วยที่ได้รับยาฟ้าทะลายโจรขนาด 6 กรัม/วัน หรือพาราเซทตามอล 3 กรัม / วัน หายจากไข้ และอาการเจ็บคอได้มากกว่ากลุ่มที่ได้ฟ้าทะลายโจรขนาด 3 กรัม / วัน อย่างมีนัยสำคัญในวันที่ 3 หลังรักษา แต่ผลการรักษาไม่มีความแตกต่างกันในวันที่ 7

2. การศึกษาประสิทธิผลในการบรรเทาอาการหวัด (Common cold) ผลการทดลองให้ยาเม็ดสารสกัดฟ้าทะลายโจรที่ควบคุมให้มีปริมาณของแอนโดกราโฟไล ด์ และดีออกซีแอนโดรกราไฟไลด์รวมกันไม่น้อยกว่า 5 มิลลิกรัม /เม็ด ครั้งละ 4 เม็ด วันละ 3 เวลา ในผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัด พบว่า วันที่ 2 หลังได้รับยา ความรุนแรงของอาการอ่อนเพลีย นอนไม่หลับ เจ็บคอ น้ำมูกไหล ในกลุ่มที่ได้รับยาฟ้าทะลายโจรน้อยกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญและในวัน ที่ 4 หลังได้รับยา ความรุนแรงของทุกอาการได้แก่ อาการไอ เสมหะ น้ำมูกไหล ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดหู นอนไม่หลับ เจ็บคอ ในกลุ่มที่ได้รับยาฟ้าทะลายโจร น้อยกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ

ตำหรับยาของฟ้าทะลายโจรและวิธีการนำไปใช้
1.ใช้ในรูปยาต้ม โดยใช้ใบและกิ่งสดล้างสะอาด สับเป็นท่อนสั้นๆ ประมาณ 1 กำมือ ต้มกับน้ำ 10-15 นาที ดื่มก่อนอาหารวันละ 3 ครั้งแก้เจ็บคอ ใช้แก้ท้องเสีย แก้บิด ใช้ 2-3 กำมือ

2.ใช้ในรูปยาลูกกลอน โดยนำใบและกิ่งมาล้างให้สะอาดผึ่งลมให้แห้ง บดให้เป็นผง ปั้นผสมกับน้ำผึ้งเป็นเม็ดขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย ผึ่งให้แห้ง รับประทาน ครั้งละ 3-6 เม็ด วันละ 3-4 ครั้ง ก่อนอาหารและก่อนนอน

3.ใช้ในรูปยาแคปซูล โดยใช้ผงใบและลำต้นบรรจุลงในแคปซูล ใช้รับประทานก่อนอาหารและก่อนนอน เนื่องจากฟ้าทะลายโจรมีรสขมมาก จึงนิยมใช้ในรูป ยาลูกกลอนและรูปยาแคปซูล ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรจำหน่ายในรูปยาแคปซูล

4.ยาทิงเจอร์หรือยาดองเหล้า เอาผงแห้งใส่ขวด แช่สุราที่แรง ๆ เช่น สุราโรง 40 ดีกรี ถ้ามี alcohol ที่รับประทานได้ (Ethyl alcohol) จะดีกว่าเหล้า แช่พอให้ท่วมยาขึ้นมาเล็กน้อย ปิดฝาให้แน่น เขย่าขวดวันละ 1 ครั้ง พอครบ 7 วัน จึงกรองเอาแต่น้ำ เก็บไว้ในขวดให้สะอาดปิดสนิท รับประทานครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ (รสขมมาก) วันละ 3-4 ครั้ง ก่อนอาหาร

5. ยาผงใช้สูดดม คือเอายาผงที่บดละเอียด มาใส่ขวดหรือกล่องยา ปิดฝาเขย่าแล้วเปิดฝาออก ผงยาจะเป็นควันลอยออกมา สูดดมควันนั้นเข้าไป ผงยาจะติดที่คอทำให้ยาไปออกฤทธิ์ที่คอโดยตรง ช่วยลดเสมหะ และแก้เจ็บคอได้ดี วิธีที่ดีกว่านี้คือวิธีเป่าคอ กวาดคอ หรือรับประทานยาชง ตรงที่คอจะรู้สึกขมน้อยมาก ไม่ทำให้ขยาดเวลาใช้ ใช้สะดวกและง่ายมาก ประโยชน์ที่น่าจะได้รับเพิ่มก็คือ ผงยาที่เข้าไปทางจมูก อาจจะช่วยลดน้ำมูก และช่วยฆ่าเชื้อที่จมูกด้วย ขนาดที่ใช้ สูดดมบ่อย ๆ วันละหลาย ๆ ครั้ง ถ้ารู้สึกคลื่นไส้ให้หยุดยาไปสักพัก จนความรู้สึกนั้นหายไป จึงค่อยสูดใหม่

ข้อห้ามใช้ ห้ามใช้ฟ้าทะลายโจรสำหรับแก้เจ็บคอในกรณีต่าง ๆ ต่อไปนี้

1. ในผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอเนื่องจากติดเชื้อ Streptococcus group A
2. ในผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคไตอักเสบเนื่องจากเคยติดเชื้อ Streptococcus group A
3. ในผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคหัวใจรูห์มาติค
4. ในผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอเนื่องจากมีการติดเชื้อแบคทีเรีย และมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มหนองในคอ มีไข้สูง หนาวสั่น

ข้อควรระวังในการใช้ฟ้าทะลายโจร
1. ฟ้าทะลายโจรอาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องเดิน ปวดเอว หรือวิงเวียนศีรษะ ใจสั่น ในผู้ป่วยบางราย หากมีอาการดังกล่าว ควรหยุดใช้ฟ้าทะลายโจร
2. หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้แขนขามีอาการชาหรืออ่อนแรง
3. หากใช้ฟ้าทะลายโจรติดต่อกัน 3 วัน แล้วไม่หาย หรือมีอาการรุนแรงขึ้นระหว่างใช้ยา ควรหยุดใช้ และไปพบแพทย์
4. สตรีมีครรภ์ไม่ควรใช้ฟ้าทะลายโจร
5. ไม่ควรรับประทานติดต่อกันนานเกินไป เนื่องจากฟ้าทะลายโจรจะทำลายจุลินทรีย์ที่อยู่ในกระเพาะอาหารมากเกินไป
  • SukapabDee.com
  • โพสต์: 0
  • ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 13 มี.ค. 2011 12:39 am

Re: วิธีใช้ฟ้าทะลายโจร ป้องกันรักษาไข้หวัด 2009 ด้วยสมุนไพรไ

 โพสต์ SukapabDee.com    4700

ฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกันและลดการแบ่งตัวของเชื้อไวรัส และทำให้ความสามารถของเชื้อไวรัสในการเกาะติดกับผนังเซลล์ลดลง จึงทำให้เชื้อไวรัสเข้าสู่เซลล์ได้ยากขึ้น ฉะนั้นฟ้าทะลายโจรจึงสามารถป้องกันการเกิดหวัด ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ทั้งแบบจำเพาะ คือ การสร้างแอนติบอดี้ (Antibody) เพื่อต่อต้านสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย และภูมิคุ้มกันแบบไม่เฉพาะเจาะจง คือ การกระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวชนิดแมคโคฟาจ (Macrophage) สามารถจับกันเชื้อโรคได้ดีขึ้น

สรรพคุณ : มี 4 ประการ คือ
1. แก้ไข้ทั่วๆ ไป เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่
2. ระงับอาการอักเสบ พวกไอ เจ็บคอ คออักเสบ ต่อมทอนซิล หลอดลมอักเสบ ขับเสมหะ รักษาโรคผิวหนังฝี
3. แก้ติดเชื้อ พวกทำให้ปวดท้อง ท้องเสีย บิด และแก้กระเพาะลำไส้อักเสบ
4. เป็นยาขม ทำให้เจริญอาหาร

ฟ้าทะลายโจร เหมาะสำหรับ ?หวัดร้อน? คือ อาการที่เหงื่อออก เจ็บคอ กระหายน้ำ ท้องผูก ปัสสาวะมีสีเข้ม แต่ฟ้าทะลายโจรจะไม่เหมาะกับผู้ที่มีอาการของ ?หวัดเย็น? คือ ไม่มีเหงื่อ อุ้งมืออุ้งเท้าเย็น ปัสสาวะมาก รู้สึกหนาวสะท้าน

บุคคลที่ไม่ควรใช้ฟ้าทะลายโจร
1. ผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอเนื่องจากติดเชื้อ Strep-tococcus group A
2. ผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคไตอักเสบ เนื่องจากเคยติดเชื้อ Streptococcus group A
3. ผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคหัวใจรูมาติก
4. ผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอ เนื่องจากมีการติดเชื้อแบคทีเรีย และมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มหนองในคอ มีไข้สูง หนาวสั่น
5. ผู้ที่เป็นความดันต่ำ เนื่องจากฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ลดความดันเลือดได้
6. สตรีมีครรภ์

ข้อควรระวัง
1. ฟ้าทะลายโจรอาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องเดิน ปวดเอว วิงเวียนศีรษะ ใจสั่น ในผู้ป่วยบางรายหากมีอาการดังกล่าวควรหยุดใช้ฟ้าทะลายโจร
2. ไม่ควรรับประทานติดต่อกันเกิน 7 วัน
3. หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้แขน ขา ชา หรืออ่อนแรง
  • SukapabDee.com
  • โพสต์: 0
  • ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 13 มี.ค. 2011 12:39 am

Re: วิธีใช้ฟ้าทะลายโจร ป้องกันรักษาไข้หวัด 2009 ด้วยสมุนไพรไ

 โพสต์ SukapabDee.com    4700

ความรู้เกี่ยกับสมุนไพร ฟ้าทะลายโจร
เรียบเรียงโดย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข

ฟ้าทะลายโจร : Chuanxinlian (???)

คำจำกัดความ
ฟ้าทะลายโจร หรือ ชวนซินเหลียน คือ ส่วนเหนือดินแห้งของพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Andrographis paniculata (Burm. f.) Wall.ex Nees วงศ์ Acanthaceae [1]

ชื่อภาษาไทย
ฟ้าทะลายโจร, ฟ้าทะลาย (กรุงเทพฯ); หญ้ากันงู (สงขลา) [2]

ชื่อจีน
ชวนซินเหลียน (จีนกลาง), ชวงซิมโน้ย (จีนแต้จิ๋ว) [1]

ชื่อภาษาอังกฤษ
Common Andrographis Herb [1]

ชื่อเครื่องยา
Herba Andrographis [1]

การเก็บเกี่ยวและการปฏิบัติหลังเก็บเกี่ยว
เก็บเกี่ยวส่วนเหนือดินเมื่อพืชเจริญเติบโตเต็มที่และเริ่มออกดอกจนถึง ออกดอก แยกสิ่งอื่นที่ปะปนมาทิ้ง ตากแดดให้แห้ง เก็บรักษาไว้ในที่มีอากาศเย็นและแห้ง มีการระบายอากาศดี [1]

การเตรียมตัวยาพร้อมใช้
นำวัตถุดิบสมุนไพรมาล้างน้ำให้สะอาด หั่นเป็นท่อน ๆ ขนาดพอเหมาะ และนำไปทำให้แห้ง [1, 3]

คุณภาพของตัวยาจากลักษณะภายนอก
ตัวยาที่มีคุณภาพดี ต้องมีปริมาณใบมาก สีเขียว [4]

สรรพคุณตามตำราการแพทย์แผนจีน
ฟ้าทะลายโจร รสขม เย็น มีสรรพคุณรักษาอาการไข้หวัด เจ็บคอ แผลในปากและลิ้น ไอเฉียบพลันและไอเรื้อรัง แก้ท้องเสีย ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ปัสสาวะขัด [1]

สรรพคุณตามตำราการแพทย์แผนไทย
ฟ้าทะลายโจร มีสรรพคุณแก้ไข้เจ็บคอ แก้ท้องเสีย [5]

ขนาดยา
การแพทย์แผนจีน ใช้ขนาด 6-9 กรัม ต้มเอาน้ำดื่ม [1]
การแพทย์แผนไทย บัญชียาหลักแห่งชาติ พ.ศ. 2542 กำหนดขนาดใช้ของฟ้าทะลายโจร [5] ดังนี้

* รักษาอาการเจ็บคอ วันละ 3-6 กรัม วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน
* รักษาอาการท้องเสียไม่ติดเชื้อ ครั้งละ 0.5-2 กรัม วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน


องค์การอนามัยโลก กำหนดขนาดใช้ของฟ้าทะลายโจร [4] ดังนี้
* แก้ไข้ ต้มยาฟ้าทะลายโจรแห้ง 3 กรัม รับประทานวันละ 2 ครั้ง
* แก้หวัด ผงยาฟ้าทะลายโจร 1.5-3 กรัม วันละ 3 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน
* แก้ท้องเสีย 3-9 กรัม รับประทานครั้งเดียวเมื่อมีอาการหรือรับประทานแคปซูลหรือยาเม็ด 500 มิลลิกรัม ครั้งละ 2 เม็ด วันละ 4 ครั้ง ก่อนอาหารและก่อนนอน

ข้อควรระวัง
1.ห้ามใช้ในผู้มีอาการแพ้ฟ้าทะลายโจร [5]
2.ประสิทธิผลในการบรรเทา อาการไข้เจ็บคอของฟ้าทะลายโจร น่าจะเกิดจากฤทธิ์ลดไข้ และฤทธิ์ต้านการอักเสบมากกว่าฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยได้รับอันตรายที่เกิดจากการติดเชื้อ แบคทีเรีย Streptococcus group A ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงตามมา เช่น ไข้รูห์มาติค โรคหัวใจรูห์มาติก และไตอักเสบ จึงมีข้อห้ามใช้ฟ้าทะลายโจรสำหรับแก้เจ็บคอในกรณีต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

* ในผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอเนื่องจากติดเชื้อ Streptococcus group A
* ในผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคไตอักเสบเนื่องจากเคยติดเชื้อนี้
* ในผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคหัวใจรูห์มาติก
* ในผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอเนื่องจากมีการติดเชื้อแบคทีเรีย และมีอาการรุนแรง เช่น เป็นตุ่มหนองในคอ มีไข้สูง หนาวสั่น

3.ฟ้าทะลายโจรอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ตั้งแต่อาการผื่นคัน ลมพิษ จนถึงอาการแพ้ขั้นรุนแรงถ้าให้โดยการฉีดหรือในขนาดสูง [5]
4.ใน ผู้ป่วยบางราย ฟ้าทะลายโจรอาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องเดิน ปวดเอว หรือวิงเวียนศีรษะ ใจสั่น หากมีอาการดังกล่าวควรหยุดใช้ยาฟ้าทะลายโจรและเปลี่ยนไปใช้ยาอื่นแทน [5]
5.หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้แขนขามีอาการชาหรืออ่อนแรง [5]
6.หากใช้ฟ้าทะลายโจรติดต่อกัน 3 วัน แล้วไม่หาย หรือมีอาการรุนแรงขึ้นระหว่างใช้ยา ควรหยุดใช้และไปพบแพทย์
7.เนื่องจากมีรายงานว่าฟ้าทะลายโจรทำให้เกิดการแท้งได้ ดังนั้นทางองค์การอนามัยโลกจึงแนะนำว่าสตรีมีครรภ์ไม่ควรใช้ฟ้าทะลายโจร [5]

ข้อมูลวิชาการที่เกี่ยวข้อง
1. สารสกัดแอลกอฮอล์และสารสำคัญกลุ่ม diterpene lactone ของฟ้าทะลายโจรสามารถลดการบีบตัวของลำไส้เล็กและกล้ามเนื้อกระเพาะอาหารของ หนูทดลองได้6,7 สารสกัดบิวทานอล andrographolide และ neoandrographolide สามารถต้านฤทธิ์ของ E. coli enterotoxin ที่ทำให้ท้องเสียได้ เพราะช่วยทำให้การสูญเสียน้ำทางลำไส้ลดลง นอกจากนี้สารสกัด 85% แอลกอฮอล์ยังป้องกันการเกิดอาการท้องเสียในหนูถีบจักรที่ได้รับน้ำมันละหุ่ง หรือ magnesium sulfate ได้ แสดงฤทธิ์ลดไข้ในกระต่าย และสามารถต้านการอักเสบในหนูขาวได้เมื่อศึกษาฤทธิ์ในการลดบวมของอุ้งเท้า หลังของหนู หลังได้รับสารคาราจีแนน (carrageenan-induced hind paw edema) [5, 8]
2. มีบางรายงานกล่าวว่าสารสกัดฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียบาง ชนิดได้ แต่รายงานการวิจัยหลายชิ้นในประเทศไทยบ่งชี้ว่าฟ้าทะลายโจรหรือสารสกัดฟ้า ทะลายโจรไม่มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้ท้องเสีย หรือทำให้เกิดโรคติดเชื้อของทางเดินหายใจส่วนบน หรือถ้าพบฤทธิ์ยับยั้งเชื้อก็จะเป็นฤทธิ์ที่อ่อนต้องใช้ความเข้มข้นของ สารสกัดสูงเกินกว่าที่จะมีความสัมพันธ์กับระดับยาในเลือดหรือในทางเดินอาหาร หลังรับประทานฟ้าทะลายโจร นอกจากนี้สารสกัดฟ้าทะลายโจรยังแสดงฤทธิ์ต้านเชื้อ Porphyromonas gingivalis ซึ่งทำให้เกิดโรคปริทันต์ได้ และสารสกัดหยาบของฟ้าทะลายโจรสามารถยับยั้งการจับตัวของแบคทีเรีย Streptococcus mutans (แบคทีเรียในช่องปากที่เปลี่ยนน้ำตาลบนเคลือบฟันให้เป็นกรด อันเป็นสาเหตุของฟันผุ) บนผิวแก้วหรือบน hydroxyapatite ที่เคลือบน้ำลาย โดยมีค่า IC50 เท่ากับ 0.5% โดยน้ำหนัก/ปริมาตร [5]
3. สารสกัดแอลกอฮอล์จากฟ้าทะลายโจรและสาร andrographolide สามารถกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของหนูถีบจักรทั้งแบบจำเพาะและแบบไม่จำเพาะ โดยสารสกัดแอลกอฮอล์มีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกันที่แรงกว่า andrographolide นอกจากนี้สารสกัดแอลกอฮอล์ยังแสดงฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดในหนูขาวที่ถูกทำให้ เป็นเบาหวานจากการได้รับสาร streptozotocin (STZ) ได้ ส่วนการศึกษาในกระต่ายปกติพบว่า สารสกัดน้ำในขนาด 10 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ป้องกันการเพิ่มของระดับน้ำตาลในเลือดเนื่องจากได้รับกลูโคสทางปากในขนาด 2 มิลลิกรัม/กิโลกรัม แต่ไม่สามารถลดน้ำตาลจากการกระตุ้นด้วย adrenaline ได้ และเมื่อให้สารสกัดนาน 6 สัปดาห์ไม่สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ เมื่อให้สารสกัดน้ำขนาด 50 มิลลิกรัม/กิโลกรัม แก่หนูที่เป็นเบาหวานจากการได้รับ STZ พบว่าสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ 52.90% และประสิทธิผลจะสูงขึ้นเมื่อใช้สารสกัดที่เตรียมแบบทำให้แห้งโดยวิธีไม่ใช้ ความร้อน โดยพบว่าขนาด 6.25 มิลลิกรัม/กิโลกรัม สามารถลดน้ำตาลได้ถึง 61.81% นอกจากนี้สารสกัดน้ำและสารสกัดแอลกอฮอล์ของใบฟ้าทะลายโจรสามารถป้องกันตับ จากสารพิษต่าง ๆ [5]
4. การศึกษาประสิทธิผลในการรักษาโรคอุจจาระร่วงและบิดแบคทีเรีย โดยใช้ผงฟ้าทะลายโจร (เตรียมจากส่วนเหนือดิน) เทียบกับยาเตตร้าซัยคลินในการรักษาอุจจาระร่วงและบิดแบคทีเรีย โดยให้ยา 2 ขนาด คือ 500 มิลลิกรัม ทุก 6 ชั่วโมง และ 1 กรัม ทุก 12 ชั่วโมง พบว่าฟ้าทะลายโจรทั้งสองขนาดสามารถลดจำนวนอุจจาระร่วง (ทั้งความถี่และปริมาณ) และจำนวนน้ำเกลือที่ให้ทดแทนได้อย่างน่าพอใจ แม้ว่าจะไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ฟ้าทะลายโจรสามารถทำลายเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคบิดแบคทีเรียได้ดีกว่าเตตร้า ซัยคลิน แต่ทำลายเชื้ออหิวาตกโรคได้ไม่ดีเท่า tetracycline อย่างไรก็ตามฟ้าทะลายโจรช่วยให้ผู้ป่วยอหิวาตกโรคถ่ายน้อยกว่ากลุ่มที่ได้ รับ tetracycline อย่างมีนัยสำคัญ [5]
5. เมื่อให้ผู้ป่วยที่มีอาการไข้เจ็บคอรับประทานฟ้าทะลายโจรแคปซูลในขนาด 3 กรัม/วัน หรือ 6 กรัม/วัน แบ่งให้วันละ 4 ครั้ง ติดต่อกัน 7 วัน เปรียบเทียบกับกลุ่มที่ได้รับพาราเซตามอลขนาด 3 กรัม/วัน พบว่าในวันที่ 3 หลังการรักษา ผู้ป่วยที่ได้รับยาพาราเซตามอลหรือฟ้าทะลายโจรขนาด 6 กรัม/วัน หายจากไข้และอาการเจ็บคอได้มากกว่ากลุ่มที่ได้รับฟ้าทะลายโจรขนาด 3 กรัม/วัน อย่างมีนัยสำคัญ แต่ผลการรักษาไม่มีความแตกต่างกันในวันที่ 75
6. รายงานผลการวิจัยทางคลินิกในต่างประเทศ โดยทดลองให้สารสกัดฟ้าทะลายโจรในขนาด 1,200 มิลลิกรัม/วัน แก่ผู้ป่วยโรคหวัดจำนวน 28 คน แล้ววัดผลในวันที่ 4 หลังได้รับยา พบว่าสารสกัดฟ้าทะลายโจรสามารถลดอาการเจ็บคอ เหนื่อย อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้ เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมที่ได้รับยาหลอก 33 ราย โดยไม่มีรายงานอาการข้างเคียงจากการใช้ยา ต่อมามีการทดลองให้ยาเม็ดฟ้าทะลายโจรซึ่งมีสารสกัด 100 มิลลิกรัม/เม็ด จำนวนครั้งละ 4 เม็ด วันละ 3 เวลา ในผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัด 102 คน เทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก 106 คน โดยให้ผู้ป่วยระบุความรุนแรงของแต่ละอาการเมื่อเริ่มให้ยาและหลังได้รับยา 2 วัน และ 4 วันตามลำดับ โดยทำเครื่องหมายลงบนเส้นตรงยาว 10 เซนติเมตร ที่แบ่งจาก 0-10 (0 หมายถึงไม่มีอาการ และ 10 หมายถึงอาการรุนแรงที่สุด) พบว่าวันที่ 2 หลังได้รับยา ความรุนแรงของอาการอ่อนเพลีย นอนไม่หลับ เจ็บคอ น้ำมูกไหล ในกลุ่มที่ได้รับยาฟ้าทะลายโจรน้อยกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ และในวันที่ 4 หลังได้รับยา ความรุนแรงของทุกอาการ ได้แก่ อาการไอ (ทั้งความแรงและความถี่) เสมหะ น้ำมูกไหล ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดหู นอนไม่หลับ เจ็บคอ ในกลุ่มที่ได้รับยาฟ้าทะลายโจรน้อยกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ ข้อมูลงานวิจัยทางคลินิกของฟ้าทะลายโจรในโรคติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ ส่วนต้น สรุปได้ว่าฟ้าทะลายโจรน่าจะมีประสิทธิผลในการนำมาใช้บรรเทาอาการของโรคติด เชื้อทางเดินหายใจส่วนต้นที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อน [5]
7. ฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ Porphyromonas gingvalis จึงมีการพัฒนายาเจลฟ้าทะลายโจรเพื่อทดสอบประสิทธิผลในการรักษาโรคปริทนต์ อักเสบ โดยศึกษาเปรียบเทียบผลทางคลินิกและทางจุลชีววิทยาของเจลฟ้าทะลายโจรและขี้ ผึ้งยามิโนไซคลินที่ใช้ใส่ใต้เหงือก เพื่อเสริมการรักษาผู้ป่วยโรคปริทนต์อักเสบเริ่มเร็วในระยะเวลา 4 เดือน โดยผู้ป่วยต้องมีรากฟันเดียวอย่างน้อย 2 ซี่ที่มีร่องลึกปริทนต์เมื่อเริ่มต้นมากกว่าหรือเท่ากับ 5 มิลลิเมตร พบว่าเมื่อใช้เจลฟ้าทะลายโจรร่วมกับการเกลารากฟันจะได้ผลใกล้เคียงกับการใช้ minocycline gel เมื่อใช้ร่วมกับการเกลารากฟัน [5]
8. สารสกัด 50% แอลกอฮอล์ของฟ้าทะลายโจร ไม่ทำให้เกิดอาการพิษเฉียบพลันในหนูถีบจักร และมีขนาดของ LD50 เมื่อให้ทางปากและใต้ผิวหนังมากกว่า 15 กรัม/กิโลกรัม และเท่ากับ 14.98 กรัม/กิโลกรัมเมื่อให้ทางช่องท้อง ส่วนผลการศึกษาพิษระยะยาวของผงฟ้าทะลายโจรในหนูพันธุ์วิสตาร์ เมื่อให้ทางปากในขนาด 0.12, 1.2 และ 2.4 กรัม/กิโลกรัม/วัน ติดต่อกันนาน 6 เดือน พบว่าไม่ก่อให้เกิดพิษในหนูขาว [5]
9. การศึกษาความเป็นพิษของสารสกัด 70% แอลกอฮอล์ของฟ้าทะลายโจรต่อระบบสืบพันธุ์ของหนูเพศผู้ โดยให้สารสกัดทางปากนาน 60 วัน พบว่าไม่ก่อให้เกิดพิษต่ออัณฑะ และไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของรูปร่างหรือหน้าที่ของ Leydig cells ในเพศเมียพบว่าเมื่อเอาผงฟ้าทะลายโจรมาผสมกับอาหารแล้ว ให้หนูถีบจักรเพศเมียกินในขนาด 2 กรัม/กิโลกรัม/วัน นาน 6 สัปดาห์ พบว่าไม่มีหนูตัวใดตั้งท้องเมื่อผสมกับหนูเพศผู้ที่ไม่ได้รับยา ขณะที่หนูกลุ่มควบคุมตั้งท้อง 95.2% มีรายงานการศึกษาว่าเมื่อฉีดน้ำต้มฟ้าทะลายโจรเข้มข้น 50% ทางช่องท้องแก่หนูถีบจักร มีผลทำให้หนูแท้งได้ และถ้าฉีด progesterone ร่วมกับฮอร์โมน LH-RH พร้อมกับฟ้าทะลายโจร จะป้องกันการแท้งในช่วงระยะแรกของการตั้งครรภ์ได้ จึงคิดว่าฟ้าทะลายโจรอาจมีผลต้านฤทธิ์ของ progesterone จึงทำให้เกิดการแท้งได้ [5]

แหล่งอ้างอิง
1. The State Pharmacopoeia Commission of P.R. China. Pharmacopoeia of the People?s Republic of China. Vol.I. English Edition. Beijing: People?s Medical Publishing House, 2005.
2. ลีนา ผู้พัฒนพงศ์, ก่องกานดา ชยามฤต, ธีรวัฒน์ บุญทวีคุณ (คณะบรรณาธิการ). ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย (เต็ม สมิตินันทน์ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2544). สำนักวิชาการป่าไม้. กรมป่าไม้. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร : บริษัท ประชาชน จำกัด, 2544.
3. Mei XH. Shiyong Zhongyao Paozhi Zhinan. 1st ed. Hubei: Hubei Science & Technology Publishing House, 2005.
4. Liu TS, Pan QP, Zhou YS, Wu ZY. XiuZhen Zhongyaoyinpian Caise Tuben. 1st ed. Hunan: Hunan Science & Technology Publishing House, 2006.
5. อัญชลี จูฑะพุทธิ (บรรณาธิการ). สมุนไพรไทยก้าวไกลสู่สากล. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ ร.ส.พ., 2548.
6. กัลยา อนุลักขณาปกรณ์ และอุไรวรรณ เพิ่มพิพัฒน์. ฤทธิ์ของฟ้าทะลายโจรในการลดการบีบตัวของลำไส้เล็กและป้องกันการเกิดท้องเสีย ในสัตว์ทดลอง. วารสารกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 2540; 39(1): 23-33.
7. วนิดา แสงอลังการ และคณะ. ผลของ andrographolide, neoandrographolide และ 14-deoxy-11,12 didehydroandrographolide ต่อการหดเกร็งของกล้ามเนื้อกระเพาะอาหารหนูขาวนอกร่างกาย. ไทยเภสัชสาร. 2533; 15(1): 5-16.
8. กองวิจัยและพัฒนาสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์. คู่มือสมุนไพรเพื่อการสาธารณสุขมูลฐาน. กรุงเทพมหานคร : Text and Journal Cooperation, 2533.
 วิธีใช้ฟ้าทะลายโจร ป้องกันรักษาไข้หวัด 2009 ด้วยสมุนไพรไทย
 เว็บบอร์ดสุขภาพ ข่าวสารความรู้สุขภาพ กระทู้สุขภาพ เคล็ดลับสุขภาพ ถาม-ตอบปัญหาสุขภาพ
ตอบกลับโพสต์
เครื่องกดนับแยกชนิดเม็ดเลือดขาว Genius Count DiffCount