
คือ โรคเบาหวาน (ระดับน้ำตาลในเลือดสูง) ที่ตรวจพบในผู้หญิงในระหว่างการตั้งครรภ์ โดยที่ก่อนการตั้งครรภ์ ไม่ได้เป็นเบาหวานมาก่อน ซึ่งจะตรวจสอบได้หลังจากตั้งครรภ์ มาแล้ว หก เดือน
อาการ
อาการของ โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ที่จะแสดงออกมานั้นมี น้อยอาการมาก ส่วนใหญ่แล้วจะต้องใช้การตรวจ ทดสอบระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งควรตรวจสอบเบาหวาน(ระดับน้ำตาล) ในช่วง เดือนที่ หก หลังจากการตั้งครรภ์
สาเหตุ
เกิดจากรกมีการสร้างฮอร์โมนบางชนิด ซึ่งมีฤทธิ์ต้านต่ออินซูลิน คือ ไปขวางการทำงานของอินซูลิน ทำให้ไม่สามารถย่อยน้ำตาลได้ จึงทำให้มีน้ำตาลในเลือดสูงและส่งผ่านไปยังทารกในครรภ์
การที่ระดับน้ำตาลที่สูง ถูกส่งผ่านทางรกไปยังทารกในครรภ์ จะทำให้ร่างกายทารกมีการหลั่งอินซูลินมากกว่าปกติ ทำให้ทารกรูปร่างโตกว่าปกติ และอาจส่งผลให้ทารกมีอาการน้ำตาลต่ำหลังคลอดและมีปัญหาเรื่องการหายใจหลังคลอดได้
การรักษา
โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ นั้นสามารรักษาได้และ หญิงโดยการควบคุมระดับน้ำตาลให้เหมาะสม
ปรึกษาแพทย์ เพื่อควบคุมอาหารให้ได้รับสารอาหารที่เหมาะสมเพียงพอ และไม่ให้มีระดับน้ำตาลสูงเกินไป
ออกกำลังให้เหมาะสม
ใช้อินซูลินเมื่อควบคุมอาหารและออกกำลังกาย แล้วระดับน้ำตาล ก่อนอาหารเช้ายังสูงกว่า 95 มก.% หรือระดับน้ำตาลหลังอาหาร 2 ชม.มากกว่า 120 มก.%
การป้องกัน
เพื่อลดความเสี่ยงจาก การเป็น เบาหวานขณะตั้งครรภ์ จึงควรดูแลสุขภาพตัวเอง ด้วยวิธีการ ง่ายๆ
ไม่กินอาหารรสหวานจัดจนเกินไป
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือด เดือนละครั้ง
ตรวจสอบระดับความดัน เดือนละครั้ง
ปัจจัยเสี่ยง
มีประวัติญาติสายตรง เป็นเบาหวาน
มีประวัติคลอดบุตรผิดปกติ
มีความเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานเพิ่มขึ้นเมื่อตั้งครรภ์ตอนอายุมากกว่า 35 ปี
มีน้ำหนักมากเกินไป (อ้วน)
เคยคลอดลูกที่มีน้ำหนักลูกมากกว่า 4000 กรัม
ผู้หญิงที่สูบบุหรี่ จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานมากกว่าปกติ 2 เท่า
ข้อมูลทางสถิติ / แนวโน้ม
จากการเก็บบันทึกข้อมูลพบว่า มีผู้เป็น โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ประมาณ ร้อยละ 3 ถึงร้อยละ 10 ของจำนวนผู้ตั้งครรภ์ด้วยกัน
โดยทั่วไปแล้วลูกของผู้ป่วย โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะเป็นโรคเบาหวานในอนาคต
สตรีซึ่งเป็น โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ จะมีความเสี่ยงสูง ที่จะพัฒนาไปเป็น โรคเบาหวานชนิดที่ 2 (หรือ เป็น เบาหวานชนิดที่ 1 ได้ แต่ว่าโอกาสน้อยมากๆ) และลูกๆ ของพวกเขามีโอกาสจะเติบโตเป็นโรคอ้วน และอาจนำไปสู่การเป็น โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในอนาคต
ที่มา : http://www.diabetes-2-cure.com/gestational-diabetes/