Skip ไปที่เนื้อหา

ท้องเสีย ท้องผูก ปวดบริเวณท้องน้อยเป็น ๆ หาย ๆ ะอาจเป็นแค่โร

เว็บบอร์ดสุขภาพ ข่าวสารความรู้สุขภาพ กระทู้สุขภาพ เคล็ดลับสุขภาพ ถาม-ตอบปัญหาสุขภาพ
  • ภาพประจำตัว
  • 9News
  • โพสต์: 0
  • ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 13 มี.ค. 2011 12:20 pm

ท้องเสีย ท้องผูก ปวดบริเวณท้องน้อยเป็น ๆ หาย ๆ ะอาจเป็นแค่โร

 โพสต์ 9News    736

ใครก็ตามที่มีอาการท้องเสีย ท้องผูก ปวดบริเวณท้องน้อยเป็น ๆ หาย ๆ อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ว่าจะต้องเป็นมะเร็งเสมอไป เพราะอาจเป็นแค่โรคไอบีเอสก็ได้

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร สาขาวิชาโรคระบบทางเดินอาหาร ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล อธิบายว่า โรคไอบีเอส หรือโรคลำไส้ทำงานแปรปรวน พบได้ตั้งแต่วัยหนุ่มสาว วัยทำงาน ไปจนถึงอายุมาก เราให้ความสนใจโรคนี้ เพราะช่วงหลังมีการวินิจฉัยโรคไอบีเอสเพิ่มขึ้นอย่างมาก ความจริงโรคนี้มีมานานแล้ว แต่วินิจฉัยยาก ส่วนใหญ่จะวินิจฉัยจากอาการ จากการสำรวจเมื่อหลายปีก่อน โดยสอบถามประชาชนทั่วไปในกรุงเทพฯที่ไม่เคยมาพบแพทย์ประมาณ 3,400 คนว่าเคยมีอาการที่เข้ากับโรคไอบีเอสหรือไม่ พบว่า 15% มีอาการเข้าได้กับไอบีเอส ซึ่งถือว่าเยอะมาก

โรคไอบีเอสไม่ใช่โรคมะเร็ง ไม่กลายเป็นมะเร็ง ไม่ตาย ไม่มีภาวะแทรกซ้อน แต่เป็น ๆ หาย ๆ หรืออาจจะเป็นตลอดชีวิต สร้างความรำคาญและทุกข์ทรมานแก่ผู้ป่วยเป็นอย่างมาก

อาการหลัก ๆ คือ ปวดท้องน้อยเป็นระยะ ๆ ลักษณะปวดแล้วก็คลาย ร่วมกับมีอาการถ่ายอุจจาระผิดปกติ ซึ่งเป็นได้ 2 แบบคือ ท้องเสีย หรือ ท้องผูก บางรายท้องผูกสลับกับท้องเสีย 2 สัปดาห์ท้องเสีย อีก 2 สัปดาห์ท้องผูกก็ได้ อีกอาการ คือ จะมีลมเยอะมาก คนไข้จะผายลมเยอะ เวลาถ่ายอุจจาระจะมีลมออกมา ทั้งนี้จะตรวจไม่พบความผิดปกติทางพยาธิสภาพที่ลำไส้ เช่น ส่องกล้องตรวจลำไส้จะไม่พบการอักเสบ ไม่มีแผล ไม่มีเนื้องอกหรือมะเร็ง และเมื่อตรวจเลือดก็ไม่พบความผิดปกติ รวมทั้งไม่มีโรคของอวัยวะอื่น ๆ ที่จะมีผลให้การทำงานของลำไส้

ปัจจุบันยังไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง แต่มีการศึกษาเพิ่มขึ้นพบว่า การบีบตัวหรือเคลื่อนตัวของลำไส้ผิดปกติ ซึ่งเป็นผลจากการหลั่งสารซีโรโทนินผิดปกติ โดยสารซีโรโทนินเป็นสารที่หลั่งจากปลายประสาทมาเลี้ยงลำไส้ สารตัวนี้จะมีผลต่อการบีบตัวมากหรือบีบตัวน้อย คือ บีบมากขึ้นก็ทำให้ท้องเสีย บีบน้อยอุจจาระไม่ออกก็กลายเป็นท้องผูก

นอกจากนี้ยังมีตัวกระตุ้นที่สำคัญ คือ ความเครียด อาหารรสจัด รสเผ็ด รสเปรี้ยว อาหารมันที่กระตุ้นให้ลำไส้บีบตัวมากขึ้น

สำหรับการรักษา เดิมไม่มีแนวทางในการรักษาเป็นการเฉพาะ ท้องเสียก็ให้ยาแก้ท้องเสีย หรือท้องผูกก็ให้ยาระบาย ปวดท้องก็ให้ยาลดการเกร็งตัวของลำไส้ แต่พอรู้ว่ามีการหลั่งสารซีโรโทนินผิดปกติ ปัจจุบันมีการคิดค้นยาที่ออกฤทธิ์เฉพาะกับการหลั่งสารซีโรโทนิน มีการนำยาดังกล่าวเข้ามาในบ้านเราแล้ว แต่เนื่องจากราคาแพงมาก การใช้จึงยังไม่แพร่หลาย อีกทั้งข้อเสียคือมีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก ต้องระวัง ในช่วงแรกยาในกลุ่มนี้ถูกห้ามขายเพราะทำให้ลำไส้ขาดเลือด กลายเป็นลำไส้เน่า แต่ยาที่ผลิตออกมาใหม่ผลข้างเคียงน้อยลงกว่าเดิมมาก ทางองค์การอาหารและยาของสหรัฐก็อนุมัติให้ใช้ยาดังกล่าวได้

ศ.คลินิก นพ.อุดม กล่าวว่า สิ่งที่คนไข้ยังกังวลคือ กลัวว่าจะเป็นมะเร็ง พอกังวลก็ยิ่งไปกระตุ้นทำให้เกิดอาการมากขึ้น คนไข้ก็จะไปพบแพทย์หลายโรงพยาบาล บางทีแนะนำไม่เชื่อ ก็จะไปหาแพทย์คนอื่นเรื่อย ๆ ซึ่งยังไงก็รักษาไม่หาย ไปโรงพยาบาลไหนก็เหมือนกัน ดังนั้นขอให้สบายใจได้ว่าไม่เป็นมะเร็ง ดังนั้นสิ่งที่อยากเน้นย้ำ คือ แพทย์จะต้องอธิบายลักษะของโรค ลักษณะการดำเนินโรคให้คนไข้เข้าใจ เพราะบางคนเก็บตัวไม่กล้าออกจากบ้านไปทำธุระเพราะกลัวจะไปท้องเสียข้างนอก บางคนตรงดิ่งไปที่ทำงานแล้วจะไม่ออกไปไหนเลย คนไข้ทุกข์ทรมานจิตใจมาก จนกลายเป็นโรคซึมเศร้า วิตกกังวล เยอะมาก ทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลง ประสิทธิภาพการทำงานลดลง แต่ถ้าคนไข้เข้าใจลักษณะของโรคว่ามันเรื้อรัง แต่ไม่เป็นมะเร็ง ไม่ตาย เพียงแต่รักษาไม่หายก็จะทำใจได้ ดังนั้นอย่ากังวลมาก ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ไปกระตุ้น ทั้งอาหารรสเผ็ด เปรี้ยว อาหารมัน ที่สำคัญไม่ควรกินมากจนเกินไปในแต่ละมื้อ เพราะถ้ากินมาก กระเพาะอาหารขยายตัวมากมันจะไปหลั่งสารที่ทำให้ลำไส้บีบตัวมาก

สิ่งที่ต้องระวัง คือ ถ้ามีอาการปวดท้องรุนแรงผิดปกติ ถ่ายเป็นเลือด น้ำหนักลดมาก ๆ เบื่ออาหาร มีไข้ อาจเป็นโรคมะเร็งได้ เพราะโรคไอบีเอสจะไม่มีการถ่ายเป็นเลือด ถ้าถ่ายเป็นเลือดแสดงว่าไม่ใช่ไอบีเอสต้องมาพบแพทย์เพื่อส่องกล้องตรวจวินิจฉัย โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปอาจต้องระวังโรคมะเร็งสำไล้เพราะอาการเริ่มต้นจะคล้ายกับโรคไอบีเอส

ศ.คลินิก นพ.อุดม กล่าวว่า ในโอกาสที่ได้รับเลือกเป็นประธานสมาคมแพทย์ทางเดินอาหารภาคพื้นเอเชียแฟซิฟิกซึ่งมีสมาชิก 22 ประเทศ ในปี 2555 จะมีการจัดประชุมระหว่างวันที่ 5-8 ธ.ค. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีแพทย์ระบบทางเดินอาหารมาร่วมประชุมประมาณ 3,000-4,000 คน ถือเป็นเกียรติของประเทศไทยที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม และที่สำคัญ นอกจากแพทย์จะได้รับความรู้ใหม่ ๆ จากการประชุมแล้ว ยังจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศด้วย

บทความน่าอ่าน
source link : http://www.dailynews.co.th/article/1490/3522
 ท้องเสีย ท้องผูก ปวดบริเวณท้องน้อยเป็น ๆ หาย ๆ ะอาจเป็นแค่โร
 เว็บบอร์ดสุขภาพ ข่าวสารความรู้สุขภาพ กระทู้สุขภาพ เคล็ดลับสุขภาพ ถาม-ตอบปัญหาสุขภาพ
เครื่องกดนับแยกชนิดเม็ดเลือดขาว Genius Count DiffCount