
นพ.สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผอ.สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) กล่าวเพิ่มเติมว่า การเสพสารแอลเอสดี (LSD) ส่งผลโดยตรงต่อการรับรู้ ความคิด และการตัดสินใจของผู้เสพ อาจก่อให้เกิดพฤติกรรมรุนแรงและเป็นอันตรายต่อทั้งตนเองและผู้อื่น เช่น การเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน การทำร้ายร่างกายผู้อื่น หรือการทำร้ายตนเอง นอกจากนี้หากเสพในปริมาณมากเกินไปเป็นเวลานาน ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางจิตเรื้อรัง เช่น โรคจิตเภท หรือโรคซึมเศร้า ซึ่งมักมาพร้อมอาการหวาดระแวง หูแว่ว เห็นภาพหลอน และแม้จะหยุดใช้ยาแล้ว แต่อาการทางจิตยังสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ อีกทั้งยังรักษาได้ยากและต้องใช้เวลานานกว่าจะทุเลา ขอเน้นย้ำเตือนกลุ่มวัยรุ่นและนักท่องเที่ยว อย่าหลงเชื่อคำชักชวนให้ทดลองใช้ “กระดาษเมา” หรือสารเสพติดทุกชนิด เพราะไม่เพียงแต่เกิดผลเสียต่อร่างกายและจิตใจเท่านั้น แต่ยังอาจนำไปสู่การก่ออาชญากรรมและการเสียชีวิตได้ ทั้งนี้หากประสบปัญหาเรื่องยาและสารเสพติดสามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่สายด่วนบำบัดยาเสพติด 1165 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.pmnidat.go.th หรือเข้ารับการบำบัดรักษาสุราและยาเสพติดได้ที่ สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) กรมการแพทย์ จังหวัดปทุมธานีและโรงพยาบาลธัญญารักษ์ในส่วนภูมิภาคทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลธัญญารักษ์เชียงใหม่ โรงพยาบาลธัญญารักษ์แม่ฮ่องสอน โรงพยาบาลธัญญารักษ์ขอนแก่น โรงพยาบาลธัญญารักษ์อุดรธานี โรงพยาบาลธัญญารักษ์สงขลา และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ปัตตานี หรือโรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง