กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมรณรงค์วันหลอดเลือดสมองโลก ปี 2567 ภายใต้แนวคิด “กีฬาสร้างพลัง หยุดยั้งโรคหลอดเลือดสมอง” มุ่งเน้นให้ประชาชนออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง พร้อมแนะนำวิธีสังเกตสัญญาณเตือนโรคหลอดเลือดสมองด้วยตนเอง หากมีอาการให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว

นพ.อดิสรณ์ วรรธนะศักดิ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคหลอดเลือดสมองเกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือดสมอง ทำให้เกิดความผิดปกติของระบบประสาทอย่างเฉียบพลัน สามารถสังเกตอาการหรือสัญญาณเตือนได้ด้วยตนเองตามหลักการ B.E.F.A.S.T ดังนี้ B (Balance) ปวดหัว เวียนศีรษะ ทรงตัวไม่ได้แบบทันที E (Eye) มองเห็นภาพซ้อน มองไม่ชัด F (Face) หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว มุมปากตก A (Arm) แขนอ่อนแรงครึ่งซีก ชาไม่มีแรงแบบเฉียบพลัน S (Speech) พูดไม่ชัด พูดลำบาก ลิ้นแข็ง T (Time) หากมีอาการให้รีบโทรสายด่วน 1669 และรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว ภายใน 4 ชั่วโมง 30 นาที หากไปพบแพทย์ช้าอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต หรืออาจจะกลายเป็นโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ดังนั้นการป้องกันไม่ให้เกิดโรคเป็นวิธีที่ดีที่สุด

นพ.กฤษฎา หาญบรรเจิด ผู้อำนวยการกองโรคไม่ติดต่อ กล่าวเพิ่มเติมว่า การมีกิจกรรมทางกาย หรือออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอมีส่วนสำคัญในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองและลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง ภาวะซึมเศร้า และความเครียด องค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) แนะนำให้ออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวันหรือสะสม 150 นาทีต่อสัปดาห์ เพราะการออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด ทำให้การไหลเวียนของหัวใจและหลอดเลือดทำงานได้ดีขึ้น สำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองสามารถออกกำลังกายเพื่อช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อและความยืดหยุ่น ลดปัญหาเกี่ยวกับการทรงตัวและการเดิน ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมองซ้ำ ทั้งนี้การออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์และนักกายภาพบำบัด เนื่องจากต้องมีการปรับ ให้เหมาะสมกับสภาวะร่างกายและระดับการฟื้นตัวของแต่ละบุคคล
#ป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง #วันหลอดเลือดสมองโลก