
IUI คืออะไร
การทำ IUI คือหนึ่งในวิธีการรักษาสำหรับผู้ที่มีลูกยาก เป็นการผสมเทียมที่มีวิธีใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด การทำ IUI มีชื่อย่อมาจากคำว่า Intra ? Uterine Insemination เป็นวิธีการรักษาโดยการฉีดอสุจิที่ได้รับการคัดเลือกว่ามีความแข็งแรง เข้าสู่โพรงมดลูกโดยตรง โดยจุดประสงค์หลักของวิธีการ IUI จะเป็นการเพิ่มโอกาสที่อสุจิจะปฏิสนธิกับไข่ได้ง่าย และเร็วมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ตั้งครรภ์ได้ง่ายมากขึ้น
IUI เหมาะกับใคร? ไม่เหมาะกับใคร?

การทำ IUI ถือเป็นวิธีการรักษาการมีลูกยากในระดับเบื้องต้นเท่านั้น เป็นวิธีการรักษาที่มีขั้นตอนการทำที่ไม่ซับซ้อน และใกล้เคียงวิธีธรรมชาติ โดยต้องอาศัยความพร้อมของทั้งเพศชาย และเพศหญิง เพื่อให้เห็นชัดเจนมากขึ้นจะขออธิบายเกี่ยวกับผู้ที่เหมาะกับการทำ IUI และผู้ที่ไม่เหมาะกับการ IUI ดังนี้
การทำ IUI เหมาะกับใครบ้าง ?
- คู่สามีภรรยาที่ต้องการมีลูก ที่ใช้วิธีการทางธรรมชาติมาแล้ว 6 เดือน แต่ไม่มีการตั้งครรภ์ สามารถใช้วิธี IUI ในการรักษาได้
- คู่สามีภรรยาที่มีลูกยากโดยไม่ทราบสาเหตุ สามารถลองปรึกษาแพทย์ เพื่อใช้วิธี IUI ได้หากเป็นสาเหตุที่ไม่รุนแรง
- ผู้ชายที่มีปริมาณอสุจิน้อย หรืออสุจิไม่แข็งแรง แต่ต้องมีปริมาณอสุจิมากกว่า 5 ล้านตัว จึงจะใช้วิธี IUI ได้
- ผู้ชายที่ต้องการบริจาคอสุจิ เพื่อสำหรับคู่สามีภรรยาที่ไม่สามารถมีลูกได้ด้วยตัวเอง ที่ต้องการมีลูกโดยใช้วิธีการทำ IUI โดยใช้อสุจิของผู้บริจาค
- ผู้หญิงที่มีอายุไม่เกิน 30 ปี หากมีอายุมากเกินไปโอากาสในการตั้งครรภ์จะลดลง
- ผู้หญิงที่มีปัญหาเกี่ยวกับการตกไข่ไม่เรื้อรัง
- ผู้หญิงที่มีท่อนำไข่ที่มีความผิดปกติ แต่ต้องมีท่อนำไข่ที่ปกติ 1 ข้าง
- ผู้หญิงที่แพ้อสุจิ ที่มีอาการแดง บวม เมื่อผิวหนังสัมผัสกับอสุจิโดยตรง ซึ่งเป็นกรณีที่เกิดขึ้นได้น้อยมาก ในการรักษาสามารถรักษาได้ด้วยวิธี IUI
- ผู้ชายที่ไม่สามารถสร้างอสุจิได้(เป็นหมัน) หรือปริมาณอสุจิน้อยเกินไป ในกรณีที่ต้องการมีลูกจริง ๆ สามารถใช้วิธี IUI โดยการใช้อสุจิของผู้บริจาคได้
- ผู้หญิงที่มีปัญหาเกี่ยวกับรังไข่ทั้ง 2 ข้าง
- ผู้หญิงที่มีการติดเชื้อรุนแรงในอุ้งเชิงกราน หรือมีพังผืดผิดเจริญผิดที่
- ผู้ที่รับการรักษาด้วยวิธีการทำ IUI มากกว่า 6 ครั้งแล้วไม่ได้ผล
ก่อนทำ IUI มีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
ในการทำ IUI ต้องมีการเตรียมความพร้อมทางร่างกาย และจิตใจของทั้งฝ่ายชาย และฝ่ายหญิง ให้มีความพร้อมอยู่เสมอ เพื่อให้ผลลัพธ์ของการ IUI โอกาสสำเร็จมากที่สุด โดยมีคำแนะนำต่าง ๆ ที่ควรทำทั้งฝ่ายชาย และฝ่ายหญิง ดังนี้
- รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และการดื่มน้ำให้เพียงพอ
- รับประทานวิตามินที่มีประโยชน์การบำรุงเลือด
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอวันละ 15-30 นาที และมีการพักผ่อนให้เพียงพอเป็นเวลา 7-8 ชั่วโมง
- ก่อนการ IUI ควรงดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ทุกชนิด และงดการสูบบุหรี่ อย่างน้อย 1 - 2 เดือน
- ทำจิตใจให้แจ่มใส ลดความเครียด หรือความกังวลต่าง ๆ เพราะสภาวะทางจิตใจก็ส่งผลในการตั้งครรภ์
- ฝ่ายชายควรงดการหลั่งอสุจิอย่างน้อย 3-7 วัน เพื่อให้มีปริมาณอสุจิที่เพียงพอสำหรับการ IUI
- นับวันตกไข่ โดยปกติการทำ IUI จะเริ่มฉีดอสุจิเข้าโพรงมดลูกในวันที่ตกไข่ตามธรรมชาติ หากไม่มีการตกไข่แพทย์จะใช้การกระตุ้นด้วยยา
ขั้นตอน IUI มีกี่ขั้นตอน

1. เตรียมอสุจิก่อนการทำ IUI
ฝ่ายชายทำให้หลั่งอสุจิใส่อุปกรณ์กักเก็บอสุจิสำหรับการทำ IUI ที่ได้เตรียมไว้ แล้วส่งต่อให้แพทย์ทันที หลังจากได้ส่งอสุจิให้แพทย์ไปแล้ว แพทย์จะทำการคัดเลือกอสุจิที่มีความสมบูรณ์แข็งแรง ในขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
2. การกระตุ้นรังไข่ก่อนทำ IUI
ก่อนการทำ IUI แพทย์จะกระตุ้นรังไข่ฝ่ายหญิงโดยการฉีดยา หรือยารับประทาน โดยส่วนใหญ่แล้วจะเริ่มหลังจากผ่านรอบเดือนไปแล้ว 3 วัน เมื่อรับยาแล้ว แพทย์จะทำการนัดมาเพื่อตรวจความพร้อมของรังไข่ ด้วยการอัลตร้าซาวด์ ถ้าหากรังไข่มีความพร้อมแล้ว แพทย์จะทำการนัดฉีดอสุจิภายใน 1-2 วัน
3. ขยายช่องคลอดก่อนการฉีดอสุจิ
ในการขยายช่องคลอดแพทย์จะให้ฝ่ายหญิงนอนบนเตียง แล้วใช้เครื่องมือสำหรับการขยายช่องคลอดขยายให้เห็นปากมดลูกชัดเจน
4. ฉีดอสุจิเข้าสู่มดลูก
แพทย์เริ่มดูดอสุจิที่เตรียมไว้เข้ามาในกระบอกฉีดยาที่ใช้สำหรับการทำ IUI แล้วใส่ปลายสายพลาสติกเข้าไปในมดลูก แล้วทำการฉีดอสุจิเข้าไป เมื่อเสร็จแล้วแพทย์จะดึงสายออก แล้วถอดเครื่องมือขยายช่องคลอด ในขั้นตอนนี้จะใช้เวลาเพียง 10-30 นาที
5. เสร็จสิ้นการ IUI
เมื่อถอดอุปกรณ์ต่าง ๆ ออกหมดแล้ว สามารถกลับบ้านได้ โดยจะสามารถรู้ผลการตั้งครรภ์ด้วยวิธี IUI ภายใน 2 สัปดาห์
แนวทางดูแลตัวเองหลังจากทำ IUI
หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนการทำ IUI เสร็จสิ้นแล้ว วิธีการรักษาแบบ IUI ถือว่าเป็นวิธีที่มีผลข้างเคียงน้อยมาก แต่ก็ยังมีความจำเป็นที่ต้องทำตามคำแนะนำต่าง ๆ ของแพทย์เสมอ โดยมีคำแนะนำต่าง ๆ ดังนี้
- สำหรับการฉีดยากระตุ้นไข่ iui ผู้หญิงบางคนอาจมีผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยคือหลัง IUI ท้องอืดมาก ซึ่งถือเป็นอาการที่ไม่อันตราย เป็นอาการที่สามารถหายได้เอง
- หลัง IUI ถ้าหากพบอาการผิดปกติเช่น ตกขาวมากผิดปกติ, เลือดออกทางช่องคลอด, ปวดท้อง เป็นต้น ให้รีบปรึกษาแพทย์ แล้วเข้ารับการรักษาทันที
- หลังทำ iui สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ
- สามารถออกกำลังกายได้ แต่ต้องระวังไม่ออกกำลังกายหนักเกินไป
- ในบางคนหลังจากทำ IUI แพทย์อาจมีการให้ยารับประทาน หรือยาเหน็บช่องคลอด
ฉีดเชื้อ IUI ราคาเท่าไหร่
การรักษาด้วยวิธี IUI ถือเป็นการทำที่มีการใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ น้อยมาก และมีขั้นตอนเพียงไม่กี่ขั้นตอน ในการทำ IUI แต่ละครั้งจะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 15,000 บาท โดยราคาแพคเกจ IUI นั้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับคลินิก หรือโรงพยาบาลที่เข้ารับการรักษา
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ IUI
สำหรับบางคนที่ยังมีข้อสงสัยต่าง ๆ เกี่ยวกับการทำ IUI สามารถหาคำตอบได้ในหัวข้อนี้ โดยคำถามต่าง ๆ เป็นคำถามที่พบได้บ่อยจากผู้ที่มีความสนใจวิธี IUI เช่นกัน
IUI เลือกเพศได้ไหม
IUI เลือกเพศของลูกไม่ได้ เพราะเป็นการฉีดอสุจิจำนวนมาก ที่มีความแข็งแรงเข้าไป เป็นการเพิ่มโอกาสให้ตั้งครรภ์ได้ง่ายขึ้นเท่านั้น
การทำ IUI โอกาสสำเร็จมากน้อยขนาดไหน
IUI โอกาสสำเร็จโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 5-15% ขึ้นอยู่กับแต่ละคน และเมื่อทำ IUI หลาย ๆ ครั้ง โอกาสที่จะตั้งครรภ์ก็จะเพิ่มสูงขึ้นถึง 90% ในการทำครั้งที่ 3-4
หลังทำ IUI แล้ว ตรวจตั้งครรภ์กี่วัน
สามารถตรวจครรภ์หลัง IUI 14 วัน โดยแพทย์ผู้ให้การรักษาจะเป็นผู้ตรวจ และยืนยันผลการตรวจให้กับผู้ที่เข้ารับการรักษา
ข้อสรุป
