Skip ไปที่เนื้อหา

"จุลินทรีย์บิฟิดัส"สร้างภูมิคุ้มกันทารก โดยเฉพาะเด็กผ่าคลอด

Mom & Child's Health Forums | เว็บบอร์ดสุขภาพแม่และเด็ก กระทู้สุขภาพแม่และเด็ก
  • ภาพประจำตัว
  • Guest
  • โพสต์: 0
  • ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 13 มี.ค. 2011 11:48 am

"จุลินทรีย์บิฟิดัส"สร้างภูมิคุ้มกันทารก โดยเฉพาะเด็กผ่าคลอด

 โพสต์ Guest    2341

กุมารแพทย์ชั้นนำยุโรปชี้ "จุลินทรีย์บิฟิดัส"สร้างภูมิคุ้มกันทารก โดยเฉพาะเด็กผ่าคลอด

สถาบันโภชนาการเนสท์เล่ จัดสัมมนาให้ความรู้แก่สื่อมวลชนในประเด็น "สร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในวันนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีของลูกน้อย" เพื่อเผยแพร่ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับประโยชน์ของจุลินทรีย์สุขภาพบิฟิดัสต่อระบบภูมิคุ้มกัน ระบบการย่อยอาหาร รวมถึงพัฒนาการด้านต่างๆ ของทารก บรรยายโดยกุมารแพทย์ชั้นนำจากยุโรป ได้แก่ ศาสตราจารย์แพทย์หญิงฮาเนีย ชาแยฟสก้า หัวหน้าแผนก-กุมารเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์วอร์ซอว์ ประเทศโปแลนด์ ดำเนินการสัมมนาโดยรองศาสตราจารย์ นายแพทย์สรายุทธ สุภาพรรณชาติ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านทารกแรกเกิด คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งมีคุณมาลี กิตติกัมปนาท ผู้อำนวยการฝ่ายบริการด้านโภชนาการและการแพทย์ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ให้การต้อนรับและกล่าวเปิดการสัมมนา

ศ. พญ. ชาแยฟสก้า กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทารกมีสุขภาพดีคือ การมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ซึ่งจะส่งผลให้ทารกมีพัฒนาการที่ดีในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านพัฒนาการทางสมอง หรือด้านพัฒนาการทางร่างกาย โดยภูมิคุ้มกันที่สำคัญนั้นมาจากแหล่งธรรมชาติจากการได้รับจุลินทรีย์สุขภาพจากแม่ในระหว่างการคลอดโดยวิธีธรรมชาติ (ผ่านทางช่องคลอด) และจากน้ำนมแม่ โดยจะช่วยเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์สุขภาพในระบบทางเดินอาหารของทารก เช่น บิฟิดัส ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อของระบบทางเดินอาหาร และระบบทางเดินหายใจ รวมถึงช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของทารกให้แข็งแรง
  • ภาพประจำตัว
  • Guest
  • โพสต์: 0
  • ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 13 มี.ค. 2011 11:48 am

Re: "จุลินทรีย์บิฟิดัส"สร้างภูมิคุ้มกันทารก โดยเฉพาะเด็กผ่าค

 โพสต์ Guest    2341

หัวหน้าแผนก-กุมารเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์วอร์ซอว์ กล่าวเสริมว่า จุลินทรีย์สุขภาพ เช่น บิฟิดัส คือ จุลินทรีย์ที่มีชีวิต เมื่อร่างกายได้รับในปริมาณที่เพียงพอจะส่งผลดีต่อสุขภาพ ทั้งนี้จุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหารมีมากกว่า 1,000 สายพันธุ์ โดยในร่างกายของมนุษย์แต่ละคนจะมีจุลินทรีย์ที่เด่นๆ อยู่ประมาณ 170 สายพันธุ์

"ประโยชน์ของจุลินทรีย์สุขภาพมีอยู่ 3 ระดับ คือ ระดับที่ 1 ? มีผลดีต่อลำไส้ จุลินทรีย์สุขภาพจะจับกับ ผนังเยื่อบุทางเดินอาหารเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อก่อโรคเข้าไปสัมผัสกับเซลล์เยื่อบุ รวมไปถึงการปล่อย สารยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อก่อโรค ระดับที่ 2 ? ผลดีต่อเยื่อบุผิว จุลินทรีย์สุขภาพทำให้ชั้นเยื่อบุในทางเดินอาหารเรียงตัวแน่นขึ้น เพื่อกันไม่ให้เชื้อโรครุกล้ำผ่านเข้าไปได้ รวมถึงทำลายตัวรับสารพิษ (Toxin Receptor) อีกด้วย และระดับที่ 3 ? มีผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน กระตุ้นภูมิคุ้มกันที่มีมาแต่กำเนิด (Innate Immunity) และควบคุมการทำงานของเดนดริติกเซลล์ (Dendritic Cell) และเม็ดเลือดขาวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น" ศ. พญ. ชาแยฟสก้า กล่าว

ทารกจะได้รับจุลินทรีย์ ขึ้นอยู่กับวิธีการคลอด และสุขอนามัย การผ่าตัดคลอด ส่งผลต่อการได้รับชนิดของจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร และระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งอาจส่งผลต่อความเสี่ยงการเกิดโรคระบบทางเดินอาหารอักเสบ และโรคติดเชื้อ ในขณะที่วิวัฒนาการสมัยใหม่ช่วยให้โลกสะอาดขึ้น ทารกแรกเกิดจึงมีโอกาสสัมผัสจุลินทรีย์น้อยลง ซึ่งทำให้ระบบภูมิคุ้มกันหลังคลอดพัฒนาล่าช้ากว่าปกติ
  • ภาพประจำตัว
  • Guest
  • โพสต์: 0
  • ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 13 มี.ค. 2011 11:48 am

Re: "จุลินทรีย์บิฟิดัส"สร้างภูมิคุ้มกันทารก โดยเฉพาะเด็กผ่าค

 โพสต์ Guest    2341

ในระหว่างตั้งครรภ์ทารกจะอยู่ในสภาวะปลอดเชื้อ แต่ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังคลอด ทารกจะได้รับจุลินทรีย์ทั้งจากแม่และจากสิ่งแวดล้อม ซึ่งจุลินทรีย์ดังกล่าวจะเริ่มพัฒนาอยู่ในระบบทางเดินอาหารของทารก โดยการคลอดด้วยวิธีธรรมชาติและน้ำนมแม่จะช่วยเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์สุขภาพให้กับระบบทางเดินอาหารของทารก ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคต่างๆ ทารกที่จำเป็นต้องผ่าตัดคลอดจึงไม่ได้รับจุลินทรีย์สุขภาพจากแม่ในระหว่างการคลอดผ่านทางช่องคลอดของแม่ ดังเช่นทารกที่คลอดธรรมชาติ

ทั้งนี้ ผลการศึกษาของสมาคมกุมารแพทย์สหรัฐอเมริกา (พ.ศ. 2553) ได้สนับสนุนการใช้โปรไบโอติกส์(จุลินทรีย์สุขภาพบิฟิดัส) ในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคในช่วงคุณแม่ตั้งครรภ์และช่วงให้นมบุตร รวมถึงการใช้โปรไบโอติกส์ (จุลินทรีย์สุขภาพบิฟิดัส) กับทารกที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคภูมิแพ้ในช่วงอายุ 6 เดือนแรก อย่างไรแล้วแต่ ควรมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันก่อนการใช้เป็นประจำ

ปัจจุบัน อัตราการผ่าตัดคลอดเพิ่มขึ้นทั่วโลก *โดยมีสถิติที่น่าสนใจดังนี้ อัตราผ่าคลอดในประเทศบราซิล มีตัวเลขสูงถึง 35% ประเทศไทย 26-34% สหรัฐอเมริกาและแคนาดา 25% ประเทศโปแลนด์ 25% สหราช-อาณาจักร 20% [*การศึกษาโดย Phadungkiatwattana & Tongsakul. Arch Gynecol Obstet, 2011]

อย่างไรก็ตาม สถาบันโภชนาการเนสท์เล่ ตระหนักถึงเหตุผลทางการแพทย์ และความจำเป็นสำหรับการผ่าตัดคลอด ดังนั้น ในกรณีที่ทารกไม่สามารถคลอดโดยวิธีธรรมชาติได้ หรือไม่สามารถได้รับน้ำนมจากแม่ ควรเลือก นมสูตรเสริมจุลินทรีย์สุขภาพบิฟิดัส หรือ บิฟิดัส บีแอล ซึ่งมีผลวิจัยทางการแพทย์ยืนยันว่าช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของทารกและลดความเสี่ยงของการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร และระบบทางเดินหายใจในทารกและเด็กเล็ก

สถาบันโภชนาการเนสท์เล่ ให้การสนับสนุนการวิจัยและแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างแพทย์ นักโภชนาการ และนักวิจัยเกี่ยวกับสุขภาพและโภชนาการของทารก เด็ก และผู้ใหญ่อย่างต่อเนื่อง ด้วยเชื่อมั่นว่าความรู้ด้านโภชนาการจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับเราทุกๆ คน

ที่มา มติชนออนไลน์
 "จุลินทรีย์บิฟิดัส"สร้างภูมิคุ้มกันทารก โดยเฉพาะเด็กผ่าคลอด
 Mom & Child's Health Forums | เว็บบอร์ดสุขภาพแม่และเด็ก กระทู้สุขภาพแม่และเด็ก
ตอบกลับโพสต์
เครื่องกดนับแยกชนิดเม็ดเลือดขาว Genius Count DiffCount