นพ.ธนินทร์ เวชชาภินันท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขมุ่งเน้นการพัฒนาระบบบริการสุขภาพที่ครอบคลุม โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุและผู้พิการ ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ด้านสาธารณสุขของประเทศไทย การนำนวัตกรรมหุ่นยนต์ฝึกเดินมาใช้ ถือเป็นหนึ่งในก้าวสำคัญที่จะทำให้การดูแลผู้พิการมีมาตรฐาน เท่าเทียม และเข้าถึงได้ทั่วประเทศ
พญ.วิชนี ธงทอง รักษาราชการแทน ผอ.สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า การฝึกเดินด้วยหุ่นยนต์มีจุดเด่นที่ช่วยสร้าง “ท่าทางการเดินใกล้เคียงธรรมชาติ”มากที่สุด ผู้ป่วยจะฝึกเดินบนสายพาน โดยมีระบบพยุงน้ำหนักและขาหุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยคอมพิวเตอร์ควบคุมการเคลื่อนไหวของข้อสะโพกและข้อเข่าอย่างแม่นยำ จึงทำให้การฝึกมีความปลอดภัย ถูกต้องตามหลักชีวกลศาสตร์ และสามารถทำซ้ำได้ต่อเนื่องโดยไม่เกิดความเสี่ยงเกินจำเป็น ปัจจุบัน สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูฯ ให้บริการฝึกเดินด้วยหุ่นยนต์ สัปดาห์ละ 3–5 ครั้ง ครั้งละ 30–45 นาที โดยทั่วไปหลังการฝึกประมาณ 12–20 ครั้ง ผู้ป่วยจะเห็นพัฒนาการที่ชัดเจน เช่น เดินได้มั่นคงขึ้น กล้ามเนื้อขาแข็งแรงขึ้น และเพิ่มโอกาสกลับมาเดินได้ด้วยตนเอง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองระยะกึ่งเฉียบพลันที่ไม่เคยได้รับการฝึกเดินมาก่อน ผลงานวิจัยยืนยันว่า การใช้หุ่นยนต์ฝึกเดินควบคู่กับการทำกายภาพบำบัดแบบดั้งเดิม ช่วยเพิ่มโอกาสการฟื้นฟูได้ดีกว่าการกายภาพเพียงอย่างเดียว จึงนับเป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าที่กรมการแพทย์พร้อมผลักดันให้เกิดการขยายบริการในอนาคต เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้พิการไทยอย่างยั่งยืน
