โพสต์
สุขภาพดี
2625
3. กลุ่มยาที่ทำให้อุจจาระนิ่ม (Fecal Softener) เช่น ยาด๊อกคิวเซท โซเดียม (Docusate Sodium) ออกฤทธิ์ช่วยลดความตึงผิวของอุจจาระ ทำให้น้ำและไขมันซึมเข้าได้ง่าย ช่วยทำให้อุจจาระนิ่ม และช่วยกระตุ้นการหลั่งของน้ำและเกลือแร่ ทำให้ถ่ายอุจจาระภายใน 1-2 วัน ยานี้อาจทำให้เกิดการเบื่ออาหาร อาเจียน ท้องร่วงได้ และห้ามใช้ร่วมกับมิเนอรอล ออยล์(Mineral Oil)
4. กลุ่มยาที่เพิ่มแรงตึงผิวของอุจจาระ (Osmotic Laxatives) เช่น
- กลุ่มเกลือของแมกนีเซียม กระตุ้นให้ลำไส้บีบตัวมากขึ้น แต่ยานี้ห้ามใช้กับผู้ป่วยสำไส้อุดตันและไม่ควรใช้กับผู้สูงอายุที่มีการทำ งานของไตบกพร่อง เพราะอาจทำให้เกิดภาวะหัวใจวาย หมดสติ หรือเสียชีวิตจากภาวะโปแตสเซียมต่ำ
- ยาสวนทวารหนัก (Enema) ประกอบด้วยโซเดียม ฟอสเฟต (Sodium Phosphate) และโซเดียมซิเตรท (Sodium Citrate) ยานี้อาจทำให้เกิดเยื่อบุลำไส้ระคายเคืองได้
- แลคทูโลส (Lactulose) มีฤทธิ์เป็นยาถ่าย หากใช้ขนาดสูงทำให้เกิดท้องเดินได้ อีกทั้ง ควรใช้ยาอย่างระมัดระวังในผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพราะมีส่วนประกอบเป็นน้ำตาล
5. กลุ่มสารหล่อลื่น (Lubricants) เช่น พารัฟฟินเหลว (Liquid Paraffin) , น้ำมันมะกอก (Olive Oil) และน้ำมันจากเมล็ดฝ้าย มีฤทธิ์ทำให้อุจจาระเหลว แต่ห้ามใช้กับทารกแรกเกิด , ผู้ป่วยที่กลืนลำบาก และ หญิงมีครรภ์
นอกจากยาทั้ง 5 กลุ่มที่กล่าวมาแล้ว ยังมียาซึ่งถือได้ว่ามีความปลอดภัย และสามารถหาซื้อได้ทั่วไป คือ ยาสามัญประจำบ้าน ซึ่งมีอยู่ 5 ชนิด คือ ยาระบายกลีเซอรีน ชนิดเหน็บทวารสำหรับเด็ก , ยาระบายกลีเซอรีน ชนิดเหน็บทวารสำหรับผู้ใหญ่ , ยาระบายแมกนีเซียม , ยาระบายมะขามแขกและ ยาระบายโซเดียมคลอไรด์ ชนิดสวนทวาร และ เรายังสามารถใช้สมุนไพรในการรักษาอาการท้องผูกได้ เช่น ใบอ่อนหรือแกนของขี้เหล็ก(Cassia siamea Britt.) , เนื้อในฝักของคูน (Cassia fistula Linn.) , ช่อดอกหรือใบสดของชุมเห็ดเทศ (Cassia alata Linn.) เนื่องจากพืชทั้งสามชนิดจะมีสารแอนทราควินโนน กลัยโคซัย (Anthraquinones Glycosides) ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นการบีบรูดตัวของลำไส้ใหญ่ เช่นเดียวกับ ใบหรือฝักของมะขามแขก (Cassia acutifolia Belile หรือ C. angustifolia Vahl.) นอกจากนี้ ยังมีสมุนไพรอื่นอีก ได้แก่ เนื้อในฝักที่แก่จัดของมะขาม ที่เรียกว่า มะขามเปียก ซึ่งจะมีสารสำคัญสองชนิด คือ กรดทาร์ทาริก (Tartaric acid)และกรดซิตริก (Citric acid) และผลแก่จัดของแมงลัก ซึ่งมักจะเรียกว่าเมล็ดของแมงลัก (Ocimum americanum Linn.) เป็นต้น
เอกสารเผยแพร่ กองพัฒนาศักยภาพผู้บริโภค อย.