โพสต์
SukapabDee.com
3641
ถ้าได้รับปริมาณที่ไม่มากร่างกายจะสามารถซ่อมแซมกลับคืนมาได้ แต่ถ้าได้รับจำนวนมากขึ้นในระดับปานกลางจนร่างกายซ่อมแซมได้ไม่หมดในอนาคต จะทำให้เกิด มะเร็งต่อมไทรอยด์ได้ แต่ถ้าได้รับปริมาณมาก ๆ จนกระทั่งทำลายต่อมไทรอยด์จนหมดก็จะทำให้เราไม่มีต่อมไทรอยด์หรือต่อม ไทรอยด์ทำงานน้อยลง ซึ่งไม่ถึงกับทำให้เราเสียชีวิต แต่หากต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยเกินไป การใช้พลังงานในร่างกายก็จะไม่สมดุล คนไข้จะมีอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง การเผาผลาญอาหารไม่ดี รับประทานอาหารเข้าไปเล็กน้อยก็ทำให้เราอ้วนได้ เนื่องจากไม่สามารถนำไปใช้เป็นพลังงานได้
ส่วนการป้องกันนั้นหากเรารู้ตัวว่าอยู่ในพื้นที่เสี่ยงหรือกำลังจะเข้าไปใน พื้นที่ที่มีสารไอโอดีนรังสี 131 นี้ ควรรับประทานยา ?โปแตสเซียมไอโอไดด์? ซึ่งมีส่วนผสมของสารไอโอดีนก่อน แต่ถ้าได้รับรังสีเข้าไปแล้วการรับประทานยาก็ไม่ได้ผลเท่าที่ควร โดยปกติแล้วต่อมไทรอยด์จะสามารถรับไอโอดีนได้ในจำนวนจำกัด ถ้ารับได้เต็มที่แล้วจะหยุดรับตัวต่อไป ฉะนั้นวิธีป้องกันการจับของไอโอดีนรังสีในต่อมไทรอยด์ คือรับประทานไอโอดีนแบบที่ไม่มีรังสีในปริมาณที่มากพอจนทำให้ต่อมไทรอยด์ อิ่ม โดยผู้ใหญ่แนะนำให้รับประทานจำนวน 1 เม็ด ขนาด 130 มิลลิกรัมต่อวันและในเด็กลดขนาดลงตามน้ำหนักตัว เมื่อต่อมไทรอยด์อิ่มด้วยไอโอดีนแล้ว หากเราสูดดมไอโอดีนรังสีเข้าไปอีกต่อมไทรอยด์ก็จะไม่รับรังสีหรือไม่ดูดซึม เข้ามาอีก ถือเป็นการป้องกันไม่ให้ต่อมไทรอยด์ได้รับรังสีและป้องกันการเกิดอันตรายต่อ ต่อมไทรอยด์ได้
อาการหลังจากได้รับการสูดดมเข้าไปแล้ว ถ้าได้รับในปริมาณน้อย ๆ เราจะไม่รู้สึกหรือมีอาการใด ๆ แต่ถ้าหากสูดดมเข้าไปในปริมาณมาก อาจเกิดการอักเสบของต่อมไทรอยด์จะมีอาการเจ็บที่บริเวณคอ หากได้รับมากขึ้นอีกเซลล์ต่อมไทรอยด์อาจจะตายหมดจนเกิดการขาดไทรอยด์ฮอร์โมน ได้ ถ้าได้รับไอโอดีนรังสีในปริมาณปานกลางจะไม่เกิดอาการใด ๆ แต่สารพันธุกรรมในร่างกายของเราจะเปลี่ยนแปลงไปและในอนาคต 10-30 ปีมีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์ได้ อย่างไรก็ดีในกรณีนี้มิใช่ว่าจะกลายเป็นมะเร็งทุกราย ส่วนใหญ่ร่างกายสามารถทำลายเซลล์ที่ผิดปกติเหล่านั้นได้ก่อนที่จะลุกลามกลาย เป็นมะเร็ง จะมีส่วนน้อยเท่านั้นที่ร่างกายอาจไม่สามารถทำลายเซลล์เหล่านั้นได้หมดก็จะ กลายเป็นมะเร็งในภายหลังได้ ซึ่งจะมีอาการคือคลำพบก้อนที่บริเวณคอ โดยเราสามารถคลำพบได้ด้วยตัวเอง ส่วนการรักษาจะง่ายมากหากพบในผู้ป่วยที่เพิ่งเริ่มเป็นใหม่ ๆ จะทำการผ่าตัดเอาตัวก้อนนั้นออกไป จากนั้นให้ดื่มน้ำแร่รังสีเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็งที่หลงเหลืออยู่หลังการผ่าตัด ให้หมดไป
สำหรับการรับประทานยาโปแตสเซียมไอโอไดด์นั้น ควรใช้ในกรณีที่มีความเสี่ยงจริง ๆ เท่านั้นเนื่องจากยาดังกล่าว อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้โดยเฉพาะถ้าแพ้สารไอโอดีนแล้วอาจถึงชีวิตได้ การที่เราจะทราบว่ามีความเสี่ยงหรือไม่ก็ด้วยวิธีติดตามข่าวสารจากทางราชการ ว่าในเวลานั้นมีปริมาณรังสีในบรรยากาศมากน้อยเพียงใด หากมีปริมาณมากจนมีความเสี่ยงทางราชการจะมีหน้าที่ประกาศให้ประชาชนทราบว่า ประชากรกลุ่มใดควรจะต้องได้รับยาโปแตสเซียมไอโอไดด์ เนื่องจากประชากรแต่ละกลุ่มมีความเสี่ยงไม่เท่ากัน เด็กเล็กมีความเสี่ยงมากกว่าผู้ใหญ่ ส่วนผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีแทบจะไม่มีความเสี่ยงเลย นอกจากนี้วิธีการรับประทานยาก็มีความสำคัญ หากรับประทานมากเกินไปก็อาจเกิดผลข้างเคียง แต่ถ้ารับประทานน้อยเกินไปก็ไม่ได้ผลในการป้องกัน ดังเช่น ข่าวลือเรื่องการใช้ยาทาแผลทาที่บริเวณคอนั้นเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องไม่ สามารถป้องกันได้เลย