มะเร็งปากมดลูก ภัยเงียบสำหรับผู้หญิง พบมากในสตรีช่วงอายุ 30-50 ปี โดยเฉพาะสตรีที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว ผู้หญิงที่เคยมีเพศสัมพันธ์มาแล้วควรรับการตรวจภายในทุกคน และมีการตรวจคัดกรองเพื่อหามะเร็งในระยะเริ่มแรก หรือระยะก่อนเป็นมะเร็ง อย่างน้อยทุก 5 ปี ถ้าเป็นไปได้ ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์แล้วทุกคน ควรตรวจทุก 1-2 ปี หากผลปกติ 2-3 ครั้ง ก็สามารถเว้นระยะห่างออกไปได้

การวินิจฉัย ที่นิยมมี 2 วิธี ดังนี้
1. การตรวจภายในและป้ายเอาเซลล์จากเนื้อเยื่อบริเวณปากมดลูก รวมทั้งมูกจากช่องคลอดส่วนบนหรือมูกจากรูปากมดลูกตรวจหาเซลล์มะเร็งในระยะเริ่มแรก
2. การตรวจภายในและการตัดชิ้นเนื้อจากแผลบริเวณปากมดลูก
เตรียมตัวอย่างไรในการตรวจมะเร็งปากมดลูก
การเตรียมตัวก่อนรับการตรวจค้นหามะเร็งในระยะแรก มีดังนี้
- งดการมีเพศสัมพันธ์คืนวันก่อนมารับการตรวจภายใน
- ห้ามสวนล้างภายในช่องคลอดมาก่อน 24 ชั่วโมง
- ไม่ควรเหน็บยาใดๆ ในช่องคลอดมาก่อน 48 ชั่วโมง
- ไม่ควรมีการตรวจภายในมาก่อน 24 ชั่วโมง
- ควรมารับการตรวจมะเร็งหลังประจำเดือนหมดแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ สำหรับผู้ที่ไม่มีประจำเดือนแล้วให้มาได้ตามสะดวก
ใครที่เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูก
- พบมากในสตรีช่วงอายุ 30-50 ปี โดยเฉพาะสตรีที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว
- เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี และมีปัจจัยส่งเสริมที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก ได้แก่
o มีการอักเสบ ระคายเคืองบริเวณปากมดลูก
o มีประวัติการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เช่น กามโรค หรือเริม เป็นต้น
o ไม่รักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะสืบพันธ์
o มีปากมดลูกฉีดขาดที่ไม่ได้รับการดูแลถูกวิธี
o ไม่มารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
o รับประทานยาคุมกำเนิดเป็นเวลานาน
o มีบุตรยากหรือมีบุตรตั้งแต่อายุยังน้อย
o มีการร่วมเพศตั้งแต่อายุยังน้อย
o มีคู่นอนหลายคน
ที่มา สสส. http://info.thaihealth.or.th/media/thaihealth/12933" onclick="window.open(this.href);return false;
