สพฉ.พร้อมรับมือสงกรานต์ ปล่อยคาราวาน 1669 3 เร็ว 2ดี ฟรี

สพฉ. พร้อมรับมือสงกรานต์ ปล่อยคาราวาน 1669 3 เร็ว 2ดี ฟรีทั่วไทย บริการเจ็บป่วยฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง

นพ.ชาตรี เจริญชีวะกุล เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมทางด้านการแพทย์ฉุกเฉินเพื่อรองรับเทศกาลสงกรานต์ในช่วงวันที่ 11-17 เมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก ส่งผลทำให้สถิติการเกิดอุบัติเหตุสูงขึ้น โดยสพฉ.ได้เตรียมพร้อมในด้านต่างๆ เพื่อการให้บริการประชาชนอย่างรวดเร็ว ทันกาล และได้มาตรฐาน ซึ่งยังคงยึดหลักตามนโยบาย 3 เร็ว 2 ดี ฟรีทั่วไทย

โดยในช่วงวันที่ 13 ? 15 เมษายนนี้ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ ภายใต้ชื่อ ?คาราวาน 1669 3 เร็ว 2 ดี ฟรีทั่วไทย? บริเวณถนนสีลม ซึ่งจะมีการปล่อยคาราวานรถรถกู้ชีพ 1669 ให้บริการประชาชน และตั้งบูธกิจกรรมให้ข้อมูลข่าวสารเพื่อให้ประชาชนได้ทราบเกี่ยวกับบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ผ่านสายด่วนเจ็บป่วยฉุกเฉิน 1669 ที่จะให้ความช่วยเหลือเมื่อเกิดเจ็บป่วยฉุกเฉินหรือประสบอุบัติเหตุ โดยสามารถโทรมาแจ้งขอความช่วยเหลือ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ฟรีทั่วไทย ซึ่งมีศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการอยู่ประจำทุกจังหวัด รวม 79 ศูนย์ กว่า 800 คู่สาย ซึ่งจะเป็นการลดอันตรายจากการบาดเจ็บและเสียชีวิตในช่วงเทศกาลสงกรานต์

นอกจากนี้ยังจัดกิจกรรมรณรงค์ในหลายพื้นที่ เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตและบาดเจ็บจากการเจ็บป่วยฉุกเฉินและอุบัติเหตุ โดยมีการแจกคู่มือปฏิบัติตัวเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน สำหรับประชาชนที่สถานีขนส่งมวลชน อาทิ สถานีขนส่งหมอชิต สถานีขนส่งเอกมัย สถานีขนส่งสายใต้ และสถานีรถไฟหัวลำโพง
สำหรับนโยบาย 3เร็ว 2ดี ฟรีทั่วไทย ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้มอบนโยบายมาตั้งแต่ช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริการประชาชนในช่วงที่มีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยฉุกเฉิน ประกอบด้วย เร็วที่ 1 คือ แจ้งเหตุเร็ว โดยมีคู่สายการรับแจ้งเหตุผ่านสายด่วน 1669 ถึง 800 คู่สาย ทั่วประเทศ ตลอด 24ชั่วโมง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เร็วที่ 2 คือ รับเร็ว จัดให้ชุดปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินที่มีกระจายทั่วประเทศ มีความพร้อมในการออกเหตุและถึงที่เกิดเหตุ ภายใน 10นาที ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของการออกเหตุทั้งหมด เร็วที่ 3 คือ ส่งเร็ว และแพทย์ให้การรักษาเร็ว ซึ่งได้ประสานกับกระทรวงสาธารณสุขในการดูแลรักษาผู้บาดเจ็บที่ห้องอุบัติเหตุฉุกเฉินในทุกโรงพยาบาลให้มีเวรประจำวันที่มีทีมแพทย์ พยาบาลที่เชี่ยวชาญพร้อมให้การรักษา ตลอด 24ชั่วโมง และ 2 ดี คือ การดูแลรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินอย่างดีทั้งในภาวะปกติ และการดูแลรักษาผู้ประสบเหตุในภาวะภัยพิบัติ โดยมีการซักซ้อมแนวทางการปฏิบัติและซ้อมแผนการช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา

ในส่วนของความพร้อมเกี่ยวกับทรัพยากรด้านการแพทย์ฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น ได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งในส่วนของรถกู้ชีพ เรือกู้ชีพ และอากาศยานกู้ชีพ โดยมีจำนวนชุดปฏิบัติการทางการแพทย์ฉุกเฉินรวม 11,138 ชุด พร้อมบุคลากรกว่า 122,945 คน แบ่งเป็น ชุดปฏิบัติการทางการแพทย์ฉุกเฉินระดับสูง (ALS) 1,796 ชุด ชุดปฏิบัติการทางการแพทย์ฉุกเฉินระดับกลาง (ILS) 40 ชุด ชุดปฏิบัติการทางการแพทย์ฉุกเฉินระดับต้น (BLS) 1,531 ชุด ชุดปฏิบัติการทางการแพทย์ฉุกเฉินเบื้องต้น (FR) 7,771 ชุด รถยนต์ปฏิบัติการฉุกเฉิน 14,189 คัน เรือปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉิน 1,128 ลำ และเฮลิคอร์ปเตอร์ฉุกเฉิน 100 ลำ พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง กระจายอยู่ทั่วประเทศ เพื่อความครอบคลุมและรวดเร็วในการให้บริการ