
ฮ่องกง, 9 เมษายน 2025 – เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระดับโลก ได้เปิดเผยรายงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล (ESG) ประจำปี 2024 อย่างเป็นทางการ รายงานฉบับนี้แสดงถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนาอย่างยั่งยืนผ่านการดำเนินงานและความสำเร็จในหลาย ๆ ด้าน เช่น โครงการเพื่อสิ่งแวดล้อม การเจริญเติบโตร่วมกันทางสังคม การเสริมสร้างธรรมาภิบาลขององค์กร และนวัตกรรมทางเทคโนโลยี
มุ่งมั่นสู่โลจิสติกส์สีเขียวเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
ในฐานะผู้นำโลจิสติกส์ระดับนานาชาติ เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ได้ยกระดับแนวทางการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่อุปทาน ปี 2024 บริษัทได้แสดงออกถึงการพัฒนาอย่างชัดเจนในด้านการวางแผน การขนส่ง และการบรรจุภัณฑ์สีเขียว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การได้ออกแบบและสร้างนิคมอุตสาหกรรมห่วงโซ่อุปทานอัจฉริยะแห่งแรกในเมืองเป่าหยิง จังหวัดเจียงซู ประเทศจีน โดยติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาขนาด 74,000 ตารางเมตร เมื่อสิ้นเดือนธันวาคม 2024 ที่ผ่านมา มีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์โดยรวมอยู่ที่ 1,089,760 กิโลวัตต์ชั่วโมง คาดการณ์ว่าจะลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 7,880 ตันต่อปี ทำให้การใช้พลังงานเป็นไปอย่างยั่งยืนและสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการพัฒนาโลจิสติกส์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ในด้านการขนส่งสีเขียว เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ได้นำรูปแบบ “four-in-one” มาปรับใช้ ประกอบด้วย การจัดการการใช้เชื้อเพลิงตามเส้นทาง การฝึกอบรมพนักงานขับรถในด้านการรู้จักในการประหยัดพลังงาน และการปรับโครงสร้างการขนส่งและพลังงาน ซึ่งในเวียดนาม บริษัทได้ตั้งเป้าลดการใช้น้ำมัน 1 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตรสำหรับรถทุกประเภท และในประเทศจีน บริษัทได้ จัดซื้อ/จัดหา รถพ่วงทำจากอะลูมิเนียมจำนวน 4,401 คัน ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่ารถพ่วงเหล็กทั่วไปถึง 1.5 ตัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และในปีเดียวกัน ยังได้เพิ่มรถบรรทุกพลังงานสะอาด (LNG) อีก 1,327 คัน ทำให้สัดส่วนรถยนต์พลังงานสะอาดในจีนเพิ่มเป็น 26% ช่วยลดความเข้มข้นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากพัสดุที่ขนส่งด้วยรถของบริษัทได้เกือบ 4%
ด้านบรรจุภัณฑ์สีเขียว เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ดำเนินมาตรการต่าง ๆ ครอบคลุมตั้งแต่จุดรับสินค้า การคัดแยก การจัดส่ง ไปจนถึงการรีไซเคิล อาทิ ถุงขนส่งที่นำกลับมาใช้ซ้ำได้ ถุงกันน้ำที่ย่อยสลายได้ เทป 45 มม. ที่ย่อยสลายได้ และใบปะหน้าแบบแผ่นเดียว โดยเริ่มต้นจากตลาดในจีน และขยายไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตลาดใหม่ ๆ ในปี 2024 มีการนำถุงขนส่งที่ใช้ซ้ำได้มาใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 799,000 ใบ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 80.7% และมีการใช้งานสะสมรวมมากกว่า 27.62 ล้านครั้ง
ส่งเสริมด้านความปลอดภัยพนักงาน ควบคู่กับการสนับสนุนสังคม