
กันแดดผสมรองพื้น
ครีมกันแดดผสมรองพื้น อีกหนึ่งไอเทมยอดฮิตที่สาว ๆ หลาย ๆ คนต้องมีติดโต๊ะเครื่องแป้ง หรือไม่ก็คงต้องได้ยินชื่อกันมาบ้างแล้ว แต่สำหรับใครที่ยังสงสัยอยู่ว่า กันแดดผสมรองพื้น คืออะไร ต่างกับกันแดดทั่วไปอย่างไร และช่วยกันแดดได้ดีจริงไหม ในบทความนี้เราก็จะพามาหาคำตอบกัน เพื่อเป็นแนวทางสำหรับใครที่อยากซื้อ ว่าเหมาะกับเราจริงไหม ตามไปหาคำตอบกันได้ในบทความนี้กัน
ครีมกันแดดผสมรองพื้น คืออะไร ?
กันแดดผสมรองพื้น เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่รวมทั้งครีมกันแดดและรองพื้นเข้าด้วยกัน โดยนำจุดเด่นของทั้งสองผลิตภัณฑ์มาผสมผสานกันเพื่อความสะดวกในการใช้งาน ทำให้ทั้งสามารถปกป้องผิวจากรังสียูวีในแสงแดด ด้วยค่า SPF และ PA พร้อมกับให้การปกปิดริ้วรอยและความไม่สม่ำเสมอของสีผิว ให้ได้งานผิวแบบใส ๆ
นอกจากนี้ ครีมกันแดดผสมรองพื้นยังมักมีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิว เช่น วิตามินต่าง ๆ และสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวได้รับการดูแลไปพร้อม ๆ กับการแต่งหน้า เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาเยอะ แต่อยากให้ผิวสวยกระจ่างใส หน้าไม่โทรม เพราะตัวนี้เค้าได้ผสมทั้งครีมกันแดดและรองพื้นให้ผิวสวยไว้ในขั้นตอนเดียว ใครที่อยากได้ลุคใส ๆ แต่งหน้าเบา ๆ ในวันที่รีบหรือขี้เกียจ บอกเลยว่าตอบโจทย์สุด ๆ
ความแตกต่างกันแดดผสมรองพื้น กับ กันแดดทั่วไป
ครีมกันแดดผสมรองพื้นและครีมกันแดดทั่วไป มีความแตกต่างกันทั้งในด้านส่วนผสม การใช้งาน และประสิทธิภาพ แม้ว่าทั้งสองประเภทจะมีจุดประสงค์หลักในการปกป้องผิวจากแสงแดด แต่กันแดดผสมรองพื้นมาพร้อมคุณสมบัติพิเศษในการปรับสีผิวและปกปิดริ้วรอย ซึ่งมีความแตกต่างกันดังนี้
เนื้อสัมผัสและความบางเบา
อย่างแรกที่แตกต่างกันเลยก็คือ เนื้อสัมผัสของกันแดดผสมรองพื้น และกันแดดทั่วไป โดยกันแดดทั่วไปจะมีเนื้อสัมผัสให้เลือกหลากหลาย และมีหลายสูตรให้เลือกตามสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นครีมกันแดดเนื้อบางเบาอย่างสูตรเจล สูตรน้ำ ไปจนถึงหนืดอย่างสูตรครีม ซึ่งออกแบบมาสำหรับคนผิวแห้ง นอกจากนี้ยังมีสูตรครีมกันแดดแบบกันน้ำ ที่จะเป็นเนื้อสัมผัสที่เนื้อหนืดและเคลือบผิวมากกว่ากันแดดแบบไม่กันน้ำ
ในขณะที่ครีมกันแดดผสมรองพื้น มักจะมีเนื้อสัมผัสที่เหมือนกับรองพื้นแต่จะเบากว่ารองพื้นทั่วไป เพราะเน้นลุคธรรมชาติ มีส่วนผสมของเม็ดสี ที่ช่วยปรับสีผิว ทำให้เนื้อดูแน่นขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับกันแดดปกติ มีให้เลือกทั้งแบบเนื้อแมตต์ หรือ ชุ่มชื้น ขึ้นอยู่กับแบรนด์และสูตร แต่ส่วนใหญ่จะให้ฟินิชแบบธรรมชาติ

การปกป้องผิว
ประสิทธิภาพในการปกป้องผิวของครีมกันแดดทั้งสองประเภทมีความแตกต่างกัน กันแดดทั่วไปถูกออกแบบมาเพื่อการป้องกันรังสี UVA และ UVB โดยเฉพาะ จึงมีประสิทธิภาพสูงกว่า ในขณะที่กันแดดผสมรองพื้น จะโดดเด่นในด้านการปรับสีผิวให้กระจ่างใส แม้ว่าจะมีค่า SPF ที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดน้อยกว่า
การใช้งาน
การใช้งานของผลิตภัณฑ์แต่ละประเภทเหมาะกับสถานการณ์ที่แตกต่างกัน กันแดดทั่วไปเหมาะสำหรับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เพราะสามารถทาซ้ำได้ง่ายโดยไม่ทำให้หน้าหนาเกินไป ในขณะที่กันแดดผสมรองพื้น เหมาะสำหรับการใช้ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะสำหรับคนที่ต้องการประหยัดเวลาในการแต่งหน้า
ความคุ้มค่า
ด้านความคุ้มค่าทางการเงิน กันแดดทั่วไปมักมีราคาที่ถูกกว่าและสามารถใช้ในปริมาณที่มากได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความหนาบนใบหน้า ในขณะที่กันแดดผสมรองพื้นอาจมีราคาสูงกว่า แต่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อรองพื้นแยกต่างหาก
ความคงทน
ความคงทนในการติดทนบนผิวหน้าของผลิตภัณฑ์ทั้งสองประเภทมีความแตกต่างกัน กันแดดทั่วไปมักจะมีคุณสมบัติกันน้ำและกันเหงื่อที่ดีกว่า ทำให้การป้องกันแสงแดดมีประสิทธิภาพยาวนานกว่า ส่วนกันแดดผสมรองพื้นอาจมีแนวโน้มที่จะหลุดลอกได้ง่ายเมื่อสัมผัสกับเหงื่อหรือน้ำ จึงต้องระวังในการใช้งานมากกว่า

แนวทางการเลือกซื้อกันแดดผสมรองพื้น
- เลือกค่า SPF ที่เหมาะกับกิจกรรม - SPF 30 สำหรับกิจวัตรทั่วไป, SPF 50 สำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง พร้อมการป้องกัน UVA/UVB แบบ Broad Spectrum
- พิจารณาสูตรตามสภาพผิว - ผิวมัน เลือกสูตร Oil-free หรือ Non-comedogenic, ผิวแห้งควรมีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น, ผิวแพ้ง่ายควรเลือกสูตร Mineral-based
- เลือกเฉดสีให้เข้ากับผิว - ทดสอบที่กรามหรือแก้มเพื่อให้กลมกลืนกับสีผิวธรรมชาติ หลีกเลี่ยงโทนสีที่อ่อนหรือเข้มเกินไป
- ตรวจสอบการปกปิด - เลือกระดับการปกปิดที่เหมาะกับความต้องการ ตั้งแต่เบาบางจนถึงปานกลาง เพื่อให้ผิวดูเป็นธรรมชาติ
- ดูส่วนผสมบำรุงผิว - ควรมีสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน หรือสารบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิว เช่น Niacinamide, Vitamin E, Hyaluronic Acid
- พิจารณาความคงทน - เลือกสูตรกันน้ำหรือทนเหงื่อหากต้องอยู่กลางแจ้งนาน หรือออกกำลังกาย
- ตรวจสอบวันหมดอายุ - ควรมีอายุการใช้งานเหลือไม่ต่ำกว่า 1 ปี และดูบรรจุภัณฑ์ที่ป้องกันการปนเปื้อนได้ดี

การใช้กันแดดผสมรองพื้น กันแดดได้ดีไหม ?
การใช้ครีมกันแดดผสมรองพื้นนั้นสามารถป้องกันแสงแดดได้ แต่อาจไม่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับครีมกันแดดทั่วไป เนื่องจากการผสมผสานสารกันแดดกับรองพื้นอาจทำให้ความเข้มข้นของสารกันแดดลดลง นอกจากนี้ การทาในปริมาณที่น้อยเกินไปเพื่อหลีกเลี่ยงความหนาของรองพื้น อาจทำให้ได้รับการป้องกันไม่เพียงพอ
ดังนั้นสำหรับใครที่อยากได้ครีมกันแดดที่สามารถกันแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรทาครีมกันแดดทั่วไปก่อน แล้วจึงใช้กันแดดผสมรองพื้นเป็นการเพิ่มการป้องกันและการปกปิด อีกทั้งควรทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมงหรือหลังเหงื่อออก เพื่อรักษาระดับการป้องกันแสงแดดให้คงที่ตลอดวัน
สรุปเรื่องกันแดดผสมรองพื้น
สำหรับใครที่อยากได้ครีมกันแดดที่ช่วยให้ผิวสวยจบครบในขั้นตอนเดียว ได้งานผิวแบบเป็นธรรมชาติ ในช่วงเวลาที่เร่งรีบหรือในวันขี้เกียจ และไม่ได้ออกไปเผชิญหน้ากับแสงแดดและมลภาวะสักเท่าไหร่ การใช้กันแดดผสมรองพื้น ก็ถือว่าตอบโจทย์ แต่ถ้าอยากได้ครีมกันแดด ที่มีประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากแสงแดดโดยเฉพาะ การเลือกครีมกันแดดแบบทั่วไปก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์มากกว่า
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://goodlybeauty.com