
ความจริงของยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ที่ผู้หญิงต้องรู้
Lady Women's Health Forums | เว็บบอร์ดสุขภาพเพศหญิง ผู้หญิง กระทู้สุขภาพผู้หญิง
- ร้านขายยา
- โพสต์: 0
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 13 มี.ค. 2011 11:55 am
ความจริงของยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ที่ผู้หญิงต้องรู้
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน เดิมเราเรียกกันว่า ยาคุมกำเนิดหลังมีเพศสัมพันธ์ (post coital pill) แต่พบว่ามีผลข้างเคียงมากพอสมควร อีกทั้งการคุมกำเนิดได้ผลไม่ดีเท่าการคุมกำเนิดแบบมาตรฐาน เช่นกินยาคุมกำเนิด ฉีดยาคุมกำเนิด สวมห่วง หรือแม้แต่สวมถุงยางอนามัย จึงมีการเปลี่ยนมาเรียกว่า ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน เพื่อให้รู้ว่าควรใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เช่น ถูกข่มขืน มีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้วางแผน หรือกรณีที่คุมกำเนิดวิธีอื่นพลาด เช่น ถุงยางอนามัยรั่ว ลืมกินยาคุมกำเนิด ไม่ได้ไปฉีดยาคุมกำเนิดตามกำหนดนัด เป็นต้น หากมีเพศสัมพันธ์ที่รู้ล่วงหน้ามาก่อน แม้นานๆ ครั้ง เช่น แฟนอยู่คนละจังหวัด ก็ควรใช้วิธีคุมกำเนิดมาตรฐาน ซึ่งจะมีผลข้างเคียงกว่า โอกาสตั้งครรภ์น้อย


- ร้านขายยา
- โพสต์: 0
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 13 มี.ค. 2011 11:55 am
Re: ความจริงของยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ที่ผู้หญิงต้องรู้
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ที่มีวางจำหน่ายในร้านขายยาทั่วไปนั้นเป็นฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน
ขนาดสูง คือ Levonorgestrel 1.5 มิลลิกรัมต่อเม็ด มีชื่อการค้าหรือยี่ห้อของยานี้ในเมืองไทยคือ โพสตินอร์(Postinor) รับประทาน 1 เม็ดทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์ อีก 1 เม็ดรับประทานหลังจากเม็ดแรก 12 ชั่วโมง การออกฤทธิ์ของยาคือ ห้ามการตกไข่ ห้ามการฝังตัวหรือรบกวนการปฏิสนธิของตัวอ่อน
ยังมียาคุมกำเนิดฉุกเฉินอีก 2 ชนิด คือ หนึ่งใช้ยาคุมกำเนิดฮอร์โมนสูง เรียกว่า สูตรของ Yuzpe ซึ่งไม่ค่อยมีขายตามท้องตลอด ส่วนใหญ่ต้องไปพบแพทย์ ชนิดที่สองเป็นยาต้านฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนซึ่งเป็นยาที่ใช้ทำแท้งด้วย คือ Mifepristone หรืออาร์ยู 486 ชนิดที่สองนี้ไม่มีจำหน่ายในเมืองไทย ถือว่าผิดกฎหมาย
ขนาดสูง คือ Levonorgestrel 1.5 มิลลิกรัมต่อเม็ด มีชื่อการค้าหรือยี่ห้อของยานี้ในเมืองไทยคือ โพสตินอร์(Postinor) รับประทาน 1 เม็ดทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์ อีก 1 เม็ดรับประทานหลังจากเม็ดแรก 12 ชั่วโมง การออกฤทธิ์ของยาคือ ห้ามการตกไข่ ห้ามการฝังตัวหรือรบกวนการปฏิสนธิของตัวอ่อน
ยังมียาคุมกำเนิดฉุกเฉินอีก 2 ชนิด คือ หนึ่งใช้ยาคุมกำเนิดฮอร์โมนสูง เรียกว่า สูตรของ Yuzpe ซึ่งไม่ค่อยมีขายตามท้องตลอด ส่วนใหญ่ต้องไปพบแพทย์ ชนิดที่สองเป็นยาต้านฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนซึ่งเป็นยาที่ใช้ทำแท้งด้วย คือ Mifepristone หรืออาร์ยู 486 ชนิดที่สองนี้ไม่มีจำหน่ายในเมืองไทย ถือว่าผิดกฎหมาย
- ร้านขายยา
- โพสต์: 0
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 13 มี.ค. 2011 11:55 am
Re: ความจริงของยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ที่ผู้หญิงต้องรู้
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน (Levonorgestrel) ที่ผู้หญิงควรรู้และเข้าใจ
1. ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน สามารถคุมกำเนิดได้เพียงร้อยละ 75-85 ขณะที่การคุมกำเนิดมาตรฐานคุมได้ร้อยละ 99.9
2. อาจมีอาการคลื่นไส้ คัดเต้านม ปวดท้อง ได้หลังจากกินยาคุมฉุกเฉิน
3. หากตั้งครรภ์อยู่ การกินยาคุมฉุกเฉินไม่สามารถทำแท้งเด็กในครรภ์
4. อาจมีเลือดออกกะปริดกะปรอยหลังกินยาคุมฉุกเฉิน มักเป็นหลังกินประมาณ 2 วัน และมักหยุดเอง ภายในสองสามวัน
5. หลังกินยาคุมฉุกเฉิน ประจำเดือนจะเลื่อนออกไปสองสามวัน หรือมากกว่านั้น ซึ่งอาจเป็นฤทธิ์ของยาคุมกำเนิดฉุกเฉินหรือตั้งครรภ์ก็ได้ ดังนั้นหากประจำเดือนขาดหลังกินยาคุมฉุกเฉิน สิ่งที่ต้องทำคือตรวจว่าตั้งครรภ์หรือเปล่า โดยอาจใช้ชุดตรวจการตั้งครรภ์ตรวจดูก่อน
6. ภายหลังการกินยาคุมฉุกเฉิน หากมีเลือดประจำเดือนมา ไม่ได้ประกันว่าคุณไม่ตั้งครรภ์ เพราะอาจจะ
เป็นการตั้งครรภ์นอกมดลูก ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินและอาจเกิดอันตรายถึงชีวิต
7. มีข้อเตือนว่า ไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินเกินเดือนละ 4 ครั้ง เพราะผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินมีมาก
8. ยาคุมฉุกเฉินไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ไม่ว่าจะเป็นหนองในแท้ หนองในเทียม ซิฟิลิส เอชพีวี (ซึ่งก่อมะเร็งปากมดลูก) หูดหงอนไก่ แผลริมอ่อน และโดยเฉพาะโรคเอดส์
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน (Levonorgestrel) ที่ผู้หญิงควรรู้และเข้าใจ, ยามคุมฉุกเฉิน วิธีกิน, กินได้กี่ครั้ง, อาทิยต์, เดือน, ประจำเดือนมา, กินอย่างไร, กินยังไง, กินสองเม็ด
1. ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน สามารถคุมกำเนิดได้เพียงร้อยละ 75-85 ขณะที่การคุมกำเนิดมาตรฐานคุมได้ร้อยละ 99.9
2. อาจมีอาการคลื่นไส้ คัดเต้านม ปวดท้อง ได้หลังจากกินยาคุมฉุกเฉิน
3. หากตั้งครรภ์อยู่ การกินยาคุมฉุกเฉินไม่สามารถทำแท้งเด็กในครรภ์
4. อาจมีเลือดออกกะปริดกะปรอยหลังกินยาคุมฉุกเฉิน มักเป็นหลังกินประมาณ 2 วัน และมักหยุดเอง ภายในสองสามวัน
5. หลังกินยาคุมฉุกเฉิน ประจำเดือนจะเลื่อนออกไปสองสามวัน หรือมากกว่านั้น ซึ่งอาจเป็นฤทธิ์ของยาคุมกำเนิดฉุกเฉินหรือตั้งครรภ์ก็ได้ ดังนั้นหากประจำเดือนขาดหลังกินยาคุมฉุกเฉิน สิ่งที่ต้องทำคือตรวจว่าตั้งครรภ์หรือเปล่า โดยอาจใช้ชุดตรวจการตั้งครรภ์ตรวจดูก่อน
6. ภายหลังการกินยาคุมฉุกเฉิน หากมีเลือดประจำเดือนมา ไม่ได้ประกันว่าคุณไม่ตั้งครรภ์ เพราะอาจจะ
เป็นการตั้งครรภ์นอกมดลูก ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินและอาจเกิดอันตรายถึงชีวิต
7. มีข้อเตือนว่า ไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินเกินเดือนละ 4 ครั้ง เพราะผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินมีมาก
8. ยาคุมฉุกเฉินไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ไม่ว่าจะเป็นหนองในแท้ หนองในเทียม ซิฟิลิส เอชพีวี (ซึ่งก่อมะเร็งปากมดลูก) หูดหงอนไก่ แผลริมอ่อน และโดยเฉพาะโรคเอดส์

- ร้านขายยา
- โพสต์: 0
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 13 มี.ค. 2011 11:55 am
Re: ความจริงของยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ที่ผู้หญิงต้องรู้
เอกสารเผยแพร่เรื่อง "ข้อเท็จจริงเรื่องยาคุมฉุกเฉิน" จากมูลนิธิสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพผู้หญิง (สคส.) บอกว่า ยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่ยาคุมธรรมดาที่ต้องกินเป็นประจำทุกวัน แต่เป็นยาที่มีปริมาณฮอร์โมนสูงมากเป็นพิเศษ เพราะผลิตขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาให้แก่ ผู้หญิงที่ไม่ต้องการตั้งครรภ์ในกรณีต่อไปนี้เท่านั้น
- มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ใช้วิธีคุมกำเนิดใดๆ
- ใช้ถุงยางแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่ารั่ว/แตก/หลุดหรือไม่
- กินยาคุมชนิดธรรมดาอยู่ แต่ลืมกินไปวันสองวันหรือนานกว่านั้น
- ใส่ห่วงคุมกำเนิดแล้ว แต่มันหลุด
- นับระยะปลอดภัย (หน้าเจ็ดหลังเจ็ด) ผิดพลาด
- ถูกข่มขืน, มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ตั้งใจ ไม่เต็มใจ
ในภาวะฉุกเฉินที่ว่ามาทั้งหมดนี้ การกินยาคุมฉุกเฉินอย่างถูกวิธีหลังมีเพศสัมพันธ์จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงตั้ง ครรภ์ได้ประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้ามีเพศสัมพันธ์อยู่เป็นประจำ หรือมีเป็นระยะๆ ควรใช้วิธีคุมกำเนิดแบบธรรมดา จะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดีกว่าการกินยาคุมฉุกเฉิน ซึ่งมีชื่อทางการค้าอยู่หลายยี่ห้อนั้น ต้องกินหลังมีเพศสัมพันธ์ภายในเวลาที่กำหนดเท่านั้น จึงจะมีประสิทธิภาพในการป้องกัน เรื่องนี้ไว้ว่ากันต่อในวันเสาร์หน้าดีกว่า
- มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ใช้วิธีคุมกำเนิดใดๆ
- ใช้ถุงยางแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่ารั่ว/แตก/หลุดหรือไม่
- กินยาคุมชนิดธรรมดาอยู่ แต่ลืมกินไปวันสองวันหรือนานกว่านั้น
- ใส่ห่วงคุมกำเนิดแล้ว แต่มันหลุด
- นับระยะปลอดภัย (หน้าเจ็ดหลังเจ็ด) ผิดพลาด
- ถูกข่มขืน, มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ตั้งใจ ไม่เต็มใจ
ในภาวะฉุกเฉินที่ว่ามาทั้งหมดนี้ การกินยาคุมฉุกเฉินอย่างถูกวิธีหลังมีเพศสัมพันธ์จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงตั้ง ครรภ์ได้ประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้ามีเพศสัมพันธ์อยู่เป็นประจำ หรือมีเป็นระยะๆ ควรใช้วิธีคุมกำเนิดแบบธรรมดา จะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดีกว่าการกินยาคุมฉุกเฉิน ซึ่งมีชื่อทางการค้าอยู่หลายยี่ห้อนั้น ต้องกินหลังมีเพศสัมพันธ์ภายในเวลาที่กำหนดเท่านั้น จึงจะมีประสิทธิภาพในการป้องกัน เรื่องนี้ไว้ว่ากันต่อในวันเสาร์หน้าดีกว่า
ความจริงของยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ที่ผู้หญิงต้องรู้
Lady Women's Health Forums | เว็บบอร์ดสุขภาพเพศหญิง ผู้หญิง กระทู้สุขภาพผู้หญิง
Lady Women's Health Forums | เว็บบอร์ดสุขภาพเพศหญิง ผู้หญิง กระทู้สุขภาพผู้หญิง
- เมื่อมะเร็งใกล้ตัวกว่าที่เราคิด (460 views)
- มะเร็งรังไข่ ภัยเงียบในเพศหญิง เกิดได้ทุกช่วงวัยโดยเฉพาะสตรีสูงวัย "กรกฎาคม เดือนรณรงค์ป้องกันมะเร็งรังไข่" (316 views)
- สถาบันมะเร็งแห่งชาติเปิดให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกสำหรับผู้หญิงไทย อายุ 11-20 ปี ฟรี (1209 views)
- กทม. เชิญชวนหญิงไทยอายุ 11-20 ปี ฉีดวัคซีนป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก (HPV) ฟรี!! (284 views)
- “มะเร็งปากมดลูก” ภัยร้ายที่คุกคามสตรี พบมากเป็นอันดับ 4 ของผู้หญิงทั่วโลก (725 views)
- A-Listic เผยเทรนด์สุขภาพมาแรง (375 views)
- ปวดท้องน้อย อย่าปล่อยผ่าน!! สัญญาณเตือนเสี่ยง “โรคช็อกโกแลตซีสต์” รู้เร็ว รักษาไว ไม่พลาดโอกาสดี ๆ ในชีวิต (519 views)
- โครงการวันมะเร็งเต้านมโลก “World Breast Cancer Day 2024” (1995 views)