ผู้หญิงกับความสวยเป็นของคู่กัน สารพัดวิธีที่จะสรรหามาช่วยแต่งเสริมสวย และเช็คความสวยให้กับตัวเองตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการเข้าคลินิกเสริมความงาม นวดหน้า ขัดตัวเพื่อดูแลใบหน้า และผิวพรรณ เข้าคอร์สดูแลรูปร่างกระชับสัดส่วน เข้าร้านทำผมเสริมสวย เข้าร้านเปลี่ยนสีเล็บ หรือตกแต่งเพ้นท์เล็บ เป็นต้น เหล่านี้คือคลินิกความงามของคุณผู้หญิงทั้งหลาย ที่จะช่วยให้ออร่าของความสวยเปล่งประกายออกมา
งานสัมมนาของไลฟ์เซ็นเตอร์ จึงได้เชิญ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องความงามจาก Pleroma มาแนะวิธีดูแลความสวยว่า ไม่เพียงแค่ใบหน้า ผิวพรรณ รูปร่างที่ต้องดูแลรายละเอียดสิ่งเล็กๆ ในร่างกาย อาทิ ผม เล็บ คิ้ว ฯลฯ ก็ต้องใส่ใจดูแลด้วยเช่นกัน เพราะความสวยต้องดูแลตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า สำหรับคนที่เคยดูแลใบหน้า รูปร่าง แต่ไม่เคยดูแลเรื่องผม เล็บ คิ้ว เลยอาจต้องกลับมาดูในรายละเอียดของสิ่งเหล่านี้มากขึ้น เพื่อให้ความสวยคงอยู่กับเราไปนานๆ และนี่คือวิธีเช็คง่ายๆ ว่าถึงเวลาที่คุณต้องเข้าคลินิกความงามแล้วหรือยัง
ฟันเหลือง
ฟันคนเราปกติจะมีสีขาวเป็นมันวาว แต่บางคนจะมีฟันเหลือง หรือดำคล้ำ แลดูไม่สวยงาม โดยอาจจะเป็นเพียงบางซี่ หรือทุกๆซี่ก็ได้ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ฟันคนเราไม่ขาวก็จะมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน คือ
1. การรับประทานอาหาร หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีสี เป็นประจำ เช่น ชา กาแฟ
2. การสูบบุหรี่
3. การจัดฟัน เนื่องจากแปรงฟันไม่สะอาดพอ จึงทำให้มีคราบอาหาร คราบแบคทีเรีย และหินปูน มาเกาะติดสะสมทีละน้อยๆ จนเห็นเป็นสีเหลือง สีน้ำตาล หรือสีดำติดตามซอกฟัน
4. จากการรับประทานยาเตตราซัยคริน ซึ่งการกินยาตัวนี้จะมีผลต่อสีของฟัน
เจลฟอกฟันขาวในท้องตลาด เป็นสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ด้วยสูตรเฉพาะของทางสินค้า ซึ่งการฟอกฟันขาว เป็นที่นิยมกันในต่างประเทศมาก โดยมีอิทธิพลมาจากดาราฮอลลีวูด ในเมืองไทยมีจำหน่าย 2 ยี่ห้อด้วยกันคือ บีแดซเซิล นำเข้าจากออสเตรเลีย และสปาร์คเคิล นำเข้าจากอเมริกาสูตรหลักมาใช้ Carbamide Peroxide ในการฟอกสีฟัน โดยการปล่อยออกซิเจนให้ซึมเข้าสู่รูพรุนของฟันในธรรมชาติ และขจัดคราบต่างๆ จากภายใน โดยไม่ทำลายเนื้อฟัน
? ข้อดี สีฟันขาวสดใสจากภายในขาวนาน ปลอดภัยต่อเคลือบฟัน ทำซ้ำได้
? ข้อควรระวัง ควรหลีกเลี่ยงในผู้ที่มีแผลในช่องปาก ผู้ที่ใส่อุปกรณ์จัดฟัน
ร่องแก้ม
สาเหตุของร่องแก้มลึก นอกจากผิวเสียคอลลาเจนตามธรรมชาติ จากอายุที่เพิ่มขึ้นหรือจากแสงแดดแล้ว ความเครียดเรื้อรัง การสูบบุหรี่ อดนอนก็มีส่วนทำให้ดูแก่ก่อนวัยรวมถึงทำให้ร่องแก้มลึกเพิ่มขึ้นได้ด้วย
วิธีรักษาที่ได้ผลดี คือการฉีดสารเติมเนื้อผิว หรือที่ชอบเรียกว่าฉีดคอลลาเจนหลายคนอาจกลัวเรื่องการฉีดอะไรเข้าผิวหน้าเพราะเคยเห็นคนที่ฉีดแล้วหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติหรือหน้าเบี้ยวจากสารที่ฉีดซึ่งมักเกิดจากการใช้ยาที่ไม่ได้
มาตรฐาน เช่น ซิลิโคนเหลว เป็นต้นซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับขององค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกาในการฉีดเพื่อความงามทุกชนิด เพราะอาจมีการไหลเปลี่ยนที่ ทำให้เกิดก้อนแข็งและสีผิวเปลี่ยนไปอย่างที่เคยเห็นตามข่าวว่าฉีดมาแล้วบวมหรือย้อยต่างๆ
สารที่แพทย์นิยมใช้ฉีดเพื่อเติมผิวให้เต็มเรียกรวมๆว่า Skin Filler หรือ สารเติมเนื้อผิวใช้รักษาผิวที่เป็นร่องลึกหรือเป็นหลุม เช่น ร่องแก้ม ร่องหน้าผาก ร่องใต้ตาหลุมแผลเป็นชนิดนุ่มต่างๆ โดยสารที่นิยมใช้มากที่สุด คือ Hyaluronic acid (HA) หรือ กรดไฮยาลูโลนิก ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์เลียนแบบโปรตีนธรรมชาติที่มีอยู่ในผิวคน จึงไม่เป็นอันตรายใดๆโอกาสแพ้มีน้อยมากๆจนไม่ต้องทำการทดสอบอาการแพ้ก่อนฉีด
สารนี้จะค่อยๆ สลายตัวในเวลา6 ? 12 เดือนหลังฉีด จึงไม่มีอันตรายหรือการสะสมใดๆ และไม่มีการไหลย้อยหรือเคลื่อนไปจากบริเวณที่ฉีด เนื่องจากขนาดโมเลกุลไม่ใหญ่หรือหนักเหมือนซิลิโคนเหลวที่มีโอกาสไหลหรือเป็นก้อนได้
นอกจากนั้นเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด จำเป็นต้องพิจารณาปัญหาแบบ 3 มิติ คือดูสาเหตุทั้งใบหน้าเพื่อความสมดุลย์และให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุด เช่น หากมีปัญหาแก้มห้อยมากจนร่องแก้มชัด ควรแก้ที่สาเหตุร่วมด้วย คือการกำจัดไขมันที่หย่อนคล้อยออกไป ปัจจุบันสามารถทำได้โดยการฉีดสลายไขมัน (Fat Dissolve) เข้าใต้ผิวเพื่อสลายไขมันโดยตรงและยังช่วยยกกระชับผิวบริเวณนั้นได้อีกด้วย
หากใครฉีดเติมร่องแก้มแล้วดูแย่ลงอาจเกิดจากการฉีดที่ตื้นเกินไป หรือฉีดไม่ตรงร่องแก้มทำให้ดูเป็นก้อนหรือดูร่องลึกขึ้นได้ ส่วนผู้ที่ได้รับการฉีดแล้วได้ผลดีมากจะดูเป็นธรรมชาติจนแยกไม่สามารถออกกับผิวหนังปกติ หากได้รับการฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพราะนอกจากการศึกษาวิจัยและความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ต้องมีแล้ว การฉีดสารเติมผิวก็ไม่ต่างอะไรกับงานศิลปะอย่างหนึ่งนั่นเอง
หน้า: หย่อนคล้อย รูขุมขนกว้าง หรือฝ้าเข้ม / Aging Spots
สาเหตุของการเกิดผิวหน้าหย่อนคล้อย
เมื่อเราอายุมากขึ้น เส้นใยคอลลาเจนและเส้นใยอิลาสตินในชั้นผิวหนังจะเสื่อมสลายไปตามธรรมชาติ เกิดปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยตามมา และในบางครั้งอาจจมีการสูญเสียไขมันในชั้นใต้ผิวหนังร่วมด้วย บริเวณที่พบปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยได้บ่อยๆ เช่น บริเวณเปลือกตาบนและล่าง รอยย่นและถุงใต้ตา บริเวณแก้มส่วนล่างตามแนวขากรรไกร และแนวลำคอ
วิธีการรักษาผิวหน้าหย่อนคล้อย
เดิมทีการแก้ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยมักทำโดยวิธีศัลยกรรมผ่าตัดเอาหนังส่วนที่เกิดนั้นออกไป แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยของเรา ทางคลีนิกจึงมีทางเลือกใหม่ที่มีชื่อว่า "Skin Tightening (การยกกระชับผิวหน้า)" โดยใช้เทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency) และรังสีอินฟราเรด (Infrared) เข้าไปกระตุ้นให้เกิดการจับตัวกันของคอลลาเจน ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ต้องมีการผ่าตัด สามารถทำร่วมกับการรักษาอื่นๆ ได้ และให้ผลข้างเคียงที่น้อย อีกทั้งผู้เข้ารับการรักษายังสามารถฟื้นตัวได้เร็ว
การป้องกันการเกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อย
การดูแลผิวอย่างถูกต้องเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณควรเข้าใจถึงการที่ผิวถูกทำลายด้วยแสงแดด แพทย์ผู้เชี่ยวชาญมักแนะนำให้ใช้ครีมกันแดดเสมอ ร่วมกับครีมบำรุงต่างๆ อีกทั้งมีการตรวจวิเคราะห์ DNA ของคุณเพื่อนำไปใช้ในกระบวนการหรือทำผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดริ้วรอยแห่งวัยที่เฉพาะเจาะจงสำหรับคุณ
รูขุมขนกว้าง มักพบในคนที่มีผิวมันหรือผิวผสมค่ะ เพราะว่าประเภทผิวลักษณะดังกล่าวนี้ จะมีน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติที่ต่อมไขมันสร้างขึ้นมามาก โดยเฉพาะบริเวณทีโซนของใบหน้า ได้แก่ หน้าผาก จมูก และคางค่ะ ทางออกของน้ำมันหล่อเลี้ยงผิว ที่สร้างขึ้นมานั้น ก็คือ รูขุมขนค่ะ ดังนั้นเมื่อสร้างน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวออกมามาก รูขุมขนก็จะขยายกว้าง เพื่อจะระบายออกได้ค่ะ นี่แหละค่ะสาเหตุที่เรามักจะพบปัญหารูขุมขนกว้าง ในคนที่มีผิวมัน หรือผิวผสมค่ะ
นอกจากสาเหตุนี้แล้ว ก็ยังมีอีกสาเหตุหนึ่งค่ะ ที่ทำให้รูขุมขนกว้าง เคยสังเกตมั๊ยค่ะ เมื่อเราอายุมากขึ้นรูขุมขนก็ดูกว้างขึ้นตาม ก็เพราะว่าผิวของเราเริ่มหย่อนคล้อย และไม่ตึงกระชับค่ะ จากเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสตินที่ผิวของเราเริ่มเสื่อมลง ผิวที่เคยเรียบเนียน ก็จะเริ่มดูหยาบกร้าน รูขุมขน ขยายกว้างขึ้นค่ะ
อย่าเพิ่งกังวลใจไปค่ะ ทุกปัญหามีทางแก้ไข ถึงแม้ว่าปัญหารูขุมขนกว้าง จะแก้ไม่ได้ 100% แต่ก็มีวิธีแก้ไขได้ค่ะ
วิธีแก้ไขรูขมขนกว้างมีดังนี้ค่ะ
? เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดความมันและกระชับรูขุมขน เช่น โทนเนอร์, Oil Control
? ทรีทเมนต์กระชับผิวที่ช่วยได้ เช่น การกระชับผิวด้วยคลื่นเสียงหรือเครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อผิวหน้า และการกระชับ
กระฝ้าลึก ที่เกิดจากพันธุกรรม ฮอร์โมนเพศหญิงที่ทำงานผิดปกติ หรือที่เกิดจากการตั้งครรภ์ ซึ่งกระฝ้าที่กล่าวถึงนี้จะอยู่ในระดับผิวชั้นลึก และมีเส้นเลือดฝอยคอยเลี้ยงอยู่ โปรแกรมนี้จะไม่ทำให้ผิวหน้าด้านบนเป็นแผล เนื่องจากกระ ฝ้าและรอยด่างดำ จะทำการดูดพลังงานแสงลงไปชั้นใต้ผิวชั้นเมลานินสีและเส้นเลือดฝอยที่คอยเลี้ยงกระฝ้าเท่านั้น หากหน้าในส่วนใดมีความเข้มมาก ก็จะมีการดูดพลังงานแสงมากน้อยตามกันไป ผิวหน้าของคุณจึงจะปราศจากกระ ฝ้า โดยไม่เป็นแผล และจะไม่กลับมาเข้มอีก
ใบหน้าที่หมองคล้ำที่เกิดจากแสงแดด รอยสิวสีดำ/สีแดง หรือสีไม่เรียบเนียน รวมถึงรอยหมองคล้ำใต้ตา สามารถรักษาได้ด้วยการปรับเม็ดสีที่ทำงานผิดปรกติหรือที่คล้ำจากแสงแดด โดยใช้เทคโนโลยีนาโนไลท์ในการรักษา ทำให้ผิวหน้าดูขาวใสอย่างเป็นธรรมชาติ และไม่มีการทำลายผิวหน้าแต่อย่างใด
ติดตามอ่านบทความดูแลสุขภาพเพิ่มเิติมได้ที่
http://www.lifecenterthailand.com/th/he ... ess01.html
10 วิธีเช็คถึงเวลาต้องเข้าคลินิกเสริมความงามรึยัง
Lady Women's Health Forums | เว็บบอร์ดสุขภาพเพศหญิง ผู้หญิง กระทู้สุขภาพผู้หญิง
- marisa
- โพสต์: 0
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ 15 มิ.ย. 2011 12:54 pm
-
- ปุ๋ย
Re: 10 วิธีเช็คถึงเวลาต้องเข้าคลินิกเสริมความงามรึยัง
เราทำ Blink Program ที่ DNA Clinic อ่ะเวิร์คมาก อาทิตย์เดียวเห็นผลเลย
10 วิธีเช็คถึงเวลาต้องเข้าคลินิกเสริมความงามรึยัง
Lady Women's Health Forums | เว็บบอร์ดสุขภาพเพศหญิง ผู้หญิง กระทู้สุขภาพผู้หญิง
Lady Women's Health Forums | เว็บบอร์ดสุขภาพเพศหญิง ผู้หญิง กระทู้สุขภาพผู้หญิง
- เมื่อมะเร็งใกล้ตัวกว่าที่เราคิด (459 views)
- มะเร็งรังไข่ ภัยเงียบในเพศหญิง เกิดได้ทุกช่วงวัยโดยเฉพาะสตรีสูงวัย "กรกฎาคม เดือนรณรงค์ป้องกันมะเร็งรังไข่" (316 views)
- สถาบันมะเร็งแห่งชาติเปิดให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกสำหรับผู้หญิงไทย อายุ 11-20 ปี ฟรี (1209 views)
- กทม. เชิญชวนหญิงไทยอายุ 11-20 ปี ฉีดวัคซีนป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก (HPV) ฟรี!! (284 views)
- “มะเร็งปากมดลูก” ภัยร้ายที่คุกคามสตรี พบมากเป็นอันดับ 4 ของผู้หญิงทั่วโลก (725 views)
- A-Listic เผยเทรนด์สุขภาพมาแรง (375 views)
- ปวดท้องน้อย อย่าปล่อยผ่าน!! สัญญาณเตือนเสี่ยง “โรคช็อกโกแลตซีสต์” รู้เร็ว รักษาไว ไม่พลาดโอกาสดี ๆ ในชีวิต (519 views)
- โครงการวันมะเร็งเต้านมโลก “World Breast Cancer Day 2024” (1995 views)