
ปัจจุบันการฉีดฟิลเลอร์กลายเป็นทางเลือกยอดนิยมในการเสริมความงาม เพราะเห็นผลเร็ว ไม่ต้องผ่าตัด และปรับแต่งได้ตามต้องการ แต่หลายคนยังสงสัยว่าควรฉีดตรงไหน ปริมาณเท่าไหร่ถึงจะสวยเป๊ะ วันนี้เรามีคำตอบ!
ฟิลเลอร์ คืออะไร ? ช่วยอะไรได้บ้าง ?

ฟิลเลอร์ คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารที่ถูกสังเคราะห์มาเพื่อเลียนแบบสารธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกายเรา โดยมีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ
การฉีดฟิลเลอร์มีจุดประสงค์เพื่อเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึกในส่วนที่ขาดหายไปในชั้นผิวหนัง เพิ่มเนื้อเยื่อและทดแทนคอลลาเจนให้ริ้วรอยร่องลึกกลับมาเรียน เต่งตึงมากขึ้น ช่วยปรับรูปหน้าให้อ่อนเยาว์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ใครที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาผิวและปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะกับคนกลุ่มต่อไปนี้
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยและร่องลึกบนใบหน้า เช่น ร่องใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก และต้องการให้บริเวณเหล่านั้นดูเต็มขึ้น
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน เช่น ปรับคางให้สมดุลกับใบหน้า ปรับรูปปากให้อิ่มเอิบ
- ผู้ที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ดูอิ่มน้ำ สดใส
- ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ โดยไม่ต้องพักฟื้น
- ผู้ที่ไม่ต้องการศัลยกรรมผ่าตัด แต่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูดี
- ผู้ที่ต้องการปรับเสริมโหงวเฮ้งรูปหน้าให้ตรงตามหลักโหงวเฮ้งที่ดีเพื่อเสริมโชคลาภ
ฟิลเลอร์เติมเต็มส่วนไหนได้บ้าง ? ใช้กี่ CC ?
ฟิลเลอร์สามารถนำมาฉีดได้หลายส่วนบนใบหน้า ได้แก่

1. ฟิลเลอร์หน้าผาก
- ปริมาณที่แนะนำ : 3-5 CC
- ประโยชน์ของการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก : ช่วยเติมเต็มหน้าผากให้ดูเรียบเนียน ปรับสมดุลใบหน้าให้ได้รูปสมส่วน และเพิ่มมิติให้หน้าผาก เหมาะกับผู้ที่มีหน้าผากแบนหรือร่องลึก ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนหวานและสดใสขึ้น
2. ฟิลเลอร์ขมับ
- ปริมาณที่แนะนำ : 2-4 CC
- ประโยชน์ของการฉีดฟิลเลอร์ขมับ : การฉีดฟิลเลอร์ขมับช่วยแก้ปัญหาขมับตอบหรือขมับลึก ทำให้โหนกแก้มไม่ดูสูงเกินไป และปรับรูปหน้าให้ดูละมุนขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มเสน่ห์ให้ใบหน้า
3. ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
- ปริมาณที่แนะนำ : 1-3 CC ต่อข้าง
- ประโยชน์ของการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม : ฟิลเลอร์ร่องแก้มเหมาะกับคนที่มีร่องแก้มลึก ซึ่งอาจทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มช่วยเติมร่องแแก้มให้ตื้นขึ้นและทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้นทันที
4. ฟิลเลอร์ใต้ตา
- ปริมาณที่แนะนำ : 2-4 CC
- ประโยชน์ของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา : ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ปัญหาร่องลึกใต้ตา ถุงใต้ตา หรือใต้ตาดำคล้ำ ทำให้ใบหน้าดูสดชื่นและอ่อนเยาว์ขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาใต้ตาหย่อนคล้อยจากการเสื่อมของคอลลาเจน หรือกระดูกยุบตัวลง
5. ฟิลเลอร์แก้มส้ม
- ปริมาณที่แนะนำ : 1-2 CC
- ประโยชน์ของการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม : การฉีดฟิลเลอร์บริเวณแก้มส้มช่วยให้ใบหน้าดูยกกระชับและมีมิติ แก้ปัญหาแก้มตอบหรือแก้มยุบ ทำให้ใบหน้าดูเด็กลง เหมาะกับคนที่ต้องการปรับโครงหน้าให้มีความสมดุล
6. ฟิลเลอร์คาง
- ปริมาณที่แนะนำ : 1-2 CC
- ประโยชน์ของการฉีดฟิลเลอร์คาง : การฉีดฟิลเลอร์คางช่วยให้ใบหน้าเรียวเป็นวีเชฟ ดูสมดุลและเรียบเนียน เหมาะสำหรับคนที่มีคางสั้นหรือคางบุ๋ม โดยการฉีดฟิลเลอร์คางจะทำให้ใบหน้าดูได้รูปมากขึ้น
7. ฟิลเลอร์ปาก
- ปริมาณที่แนะนำ : 1-2 CC
- ประโยชน์ของการฉีดฟิลเลอร์ปาก : การฉีดฟิลเลอร์ปากช่วยเพิ่มความอิ่มเอิบให้ริมฝีปาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีริมฝีปากบางหรือริมฝีปากแห้ง การเติมฟิลเลอร์ปากยังช่วยปรับรูปปากให้ได้สัดส่วนตามที่ต้องการ
คำแนะนำก่อน-หลังฉีดฟิลเลอร์

การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอย เติมเต็มร่องลึก และปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนสวยงาม การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์และการดูแลหลังฉีดมีความสำคัญมาก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย ดังนั้น นี่คือคำแนะนำต่าง ๆ ที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์
1. การเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์
การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญในการฉีดฟิลเลอร์ เพราะจะช่วยให้ได้รับการดูแลอย่างปลอดภัย โดยคำแนะนำในการเลือกคลินิก มีดังนี้
- เลือกคลินิกที่มีใบอนุญาต : ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าคลินิกนั้นมีใบอนุญาตประกอบการจากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อความปลอดภัย
- เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง : การฉีดฟิลเลอร์ต้องทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์เฉพาะด้านที่ได้รับการฝึกฝนด้านความงามโดยตรง และมีประสบการณ์ด้านการฉีดปรับรูปหน้ามาหลายเคส รวมถึงต้องเป็นแพทย์จริง มีใบอนุญาต สามารถตรวจสอบชื่อ-นามสกุล หรือเลขว. บนเว็บไซต์แพทยสภา
- เลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย. : ฟิลเลอร์ที่ใช้ต้องเป็นฟิลเลอร์แท้ประเภท HA ที่ผ่านการรับรองจาก อย. เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่ดี ควรมั่นใจว่าคลินิกที่สนใจใช้บริการ มีวิธีการอย่างไรที่ช่วยทำให้คนไข้มั่นใจว่าใช้ฟิลเลอร์แท้ เช่น การเปิดกล่องตัวยาฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า หรือ อนุญาตให้นำกล่องฟิลเลอร์กลับบ้านไปตรวจสอบ เป็นต้น
- ดูรีวิวและประสบการณ์ผู้ใช้บริการจริง : การดูรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการคลินิกนั้นจะช่วยให้มั่นใจและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ควรจรวจสอบรีวิวจากช่องทางที่น่าเชื่อถือ เช่น บน Google Maps,Pantips,Facebook Review
2. การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีและลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง โดยคำแนะนำในการเตรียมตัวมีดังนี้
- หยุดยาและอาหารเสริมบางชนิด : ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาละลายลิ่มเลือด เช่น แอสไพริน หรืออาหารเสริมบางชนิด เช่น น้ำมันปลา วิตามินอี อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยฟกช้ำระหว่างฉีดฟิลเลอร์
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ : ควรงดแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ก่อนฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 1-2 วัน เพื่อให้การไหลเวียนของเลือดเป็นปกติ ลดความเสี่ยงของการเกิดรอยแดงหรือบวม
- งดการทำหัตถการอื่น ๆ บนใบหน้า : งดคอร์สเลเซอร์และนวดหน้าอย่างน้อย 3 วัน ก่อนฉีดฟิลเลอร์
3. การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์
หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลเพื่อให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานและลดโอกาสในการเกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการกดหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีด : หลังฉีดฟิลเลอร์ใหม่ ๆ ควรหลีกเลี่ยงการกดหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยฟกช้ำหรือการเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงความร้อนและการทำซาวน่า : ควรหลีกเลี่ยงการโดนความร้อนจัด เช่น การอาบแดดหรือเข้าซาวน่า เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานน้อยลง
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ : การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์อุ้มน้ำได้ดี ทำให้ผิวดูชุ่มชื้นและฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น
- งดการออกกำลังกายหนัก ๆ : ควรงดการออกกำลังกายที่ทำให้ร่างกายเหงื่อออกมากในช่วง 24-48 ชั่วโมงหลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อลดการอักเสบ
4. ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์
ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์มักเป็นผลชั่วคราวและไม่รุนแรง แต่อาจเกิดขึ้นได้ ควรรู้จักผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นเพื่อรับมือได้อย่างเหมาะสม
- อาการข้างเคียงปกติหลังฉีดฟิลเลอร์ : อาจพบอาการบวม แดง และรอยช้ำบริเวณที่ฉีดได้เล็กน้อย ซึ่งมักจะหายไปเองภายใน 5-7 วัน ก่อนจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนเต็มที่ใน 2 สัปดาห์
- อาการข้างเคียงผิดปกติหลังฉีดฟิลเลอร์ : เกิดก้อนนูนหรือฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน ผิวมีสีคล้ำขึ้น หรือมีอาการบวมปวดขึ้นมากเรื่อย ๆ ผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและแก้ไข ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดกับผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์กับหมอกระเป๋า ขาดความชำนาญ ใช้ฟิลเลอร์ปลอม
สรุปเรื่องฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ช่วยปรับรูปหน้า เติมเต็มร่องลึก และเพิ่มความอิ่มเอิบให้ใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ การเลือกตำแหน่งฉีดและปริมาณ CC ที่เหมาะสมแต่ละจุดมีความสำคัญ เช่น หน้าผาก ขมับ ร่องแก้ม ใต้ตา แก้มส้ม คาง และปาก เพื่อช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติและปลอดภัย ควรปรึกษาและทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ใช้ฟิลเลอร์แท้ ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน