ผมร่วงในผู้หญิงจะพบทั่วๆไป เป็นผมบางทั่วๆ ศีรษะ มีส่วนน้อยที่พบว่าทำให้เกิดศีรษะล้านเฉพาะที่เช่น บริเวณกลางกระหม่อมแบบในเพศชาย เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากฤทธิ์ของฮอร์โมน ดีเอชที ที่ทำให้เกิดศีรษะล้านแบบกรรมพันธุ์ (androgenetic alopecia) ซึ่งพบมากในเพศชาย ดังนั้นการรักษาโดย การใช้ยาที่ต้านการออกฤทธิ์หรือการสร้างฮอร์โมน DHT จึงมักได้ผลน้อยหรือไม่ได้ผลเลยในการรักษาผมร่วงในผู้หญิง
ถึงแม้ว่ายากลุ่มนี้จะมีข้อห้ามในการใช้ในผู้หญิงแต่ปัจจุบันพบว่ามีผู้หญิงจำนวนหนึ่งที่มีผมร่วงผมบางจากกรรมพันธุ์นำมาใช้แล้วได้ผลแต่ไม่ปลอดภัยหากผู้หญิงที่ใช้ อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ถ้าตั้งครรภ์ระหว่างใช้ยาอาจจะทำให้ทารกพิการได้ วิธีการรักษาผมร่วงในผู้หญิงที่ถูกต้อง จึงต้องค้นหา
สาเหตุผมร่วง และแก้ไขที่สาเหตุเหล่านั้น การรักษาจึงจะได้ผมดีที่สุด
ผมร่วงเฉพาะที่ในผู้หญิงที่อาจพบได้ มีลักษณะโดยแบ่งเป็น 2 แบบ ดังนี้ คือ
แบบที่ 1 แบบที่พบได้บ่อย คือจะมี ผมบาง หรือ ศีรษะล้าน เฉพาะตรงบริเวณกลางๆศีรษะเท่านั้น ส่วนแนวผมด้านหน้ายังคงดีอยู่ไม่ถอยร่นเข้าไปเหมือนในผู้ชาย เชื่อกันว่ากลไกการเกิด ศีรษะล้าน แบบนี้ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับปริมาณ ฮอร์โมนเพศชาย ในร่างกาย แบ่งความรุนแรงออกเป็น 3 ระดับ คือ
ระดับที่ 1 เริ่มมีผมบางลง จะเห็นได้ชัดตรงรอยแสกของเส้นผม แต่ผมยังบางไม่มากนัก
การรักษา ศีรษะล้านจากกรรมพันธุ์ ระดับที่ 1 ควรลองใช้ยาดูก่อน ยังไม่มีความจำเป็นต้องปลูกผม เพราะเส้นผมเพิ่งเริ่มบางลง และเส้นเล็กลง อาการยังเป็นไม่มากนัก
ระดับที่ 2 ผมบางมากขึ้นจนเริ่มเห็นหนังศีรษะ พื้นที่ ศีรษะล้าน ขยายมากขึ้นกว่าเดิม
การรักษา ศีรษะล้านจากกรรมพันธุ์ ระดับที่ 2 ควรใช้วิธีการปลูกผมโดยการย้ายเซลล์ หลังปลูกผมแล้วควรใช้ยา เพื่อชะลอหรือป้องกัน ไม่ให้ผมเดิม(ผมที่ไม่ได้ปลูก) ร่วงมากขึ้น มิฉะนั้น ผมเดิมก็จะบางลงอีก และ/หรือ พื้นที่ของศีรษะล้านก็อาจจะเพิ่มขึ้น จนอาจต้องกลับมาปลูกผมซ้ำอีก
ระดับที่ 3 ผมบางมาก จนเห็นหนังศีรษะชัดเจน พื้นที่ ศีรษะล้าน ขยายออกไปทางด้านข้างโดยรอบ
การรักษา ศีรษะล้านจากกรรมพันธุ์ ระดับที่ 3 ใช้การรักษาทางยา ร่วมกับการปลูกผมโดยการย้ายเซลล์ แต่ผลการรักษาไม่ค่อยดี เนื่องจากสูญเสียเส้นผมไปเป็นจำนวนมาก การสวมใส่วิก ก็เป็นทางเลือกอีกทางหนึ่ง
แบบที่2 พบได้น้อย ลักษณะที่พบ คือจะมีศีรษะเถิกลึกเข้าไปเป็นง่ามแบบผู้ชาย แต่อาการมักไม่รุนแรงเช่นในผู้ชาย ศีรษะล้าน จากกรรมพันธุ์ แบบที่ 2 นี้ พบร่วมกับการมี ฮอร์โมนเพศชาย ในปริมาณที่สูงกว่าปกติ
การรักษา ศีรษะล้านจากกรรมพันธุ์ แบบที่ 2 นี้ ควรใช้วิธีการปลูกผมโดยการย้ายเซลล์ หลังปลูกผมแล้ว ควรใช้ยาเพื่อชะลอ หรือป้องกันไม่ให้ผมเดิม (ผมที่ไม่ได้ปลูก) ร่วงมากขึ้น มิฉะนั้น ผมเดิมก็จะบางลงอีก และ/หรือ พื้นที่ของศีรษะล้านก็อาจจะเพิ่มขึ้น จนอาจต้องกลับมาปลูกผมซ้ำอีก
แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าผู้หญิงจะมีข้อจำกัดในการรักษา แต่ก็มิใช่ว่าจะหมดหวัง หากสิ่งที่คุณคาดหวังไว้ มิได้เกินไปกว่าความเป็นจริงที่เทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบันที่จะช่วยคุณได้
เทคโนโลยีใหม่ ปลูกผม ไม่ต้องผ่าตัด แก้ปัญหาผมบาง หัวล้าน ได้ผล
ใครที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง หัวล้าน ใน ณ ขณะนี้ น่าจะได้เห็นถึงเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ๆ ในการแก้ไขปัญหาผมร่วง หัวล้าน ที่มีมากขึ้น เพื่อให้การรักษาได้ผล
ซึ่งมีเทคโนโลยีปลูกผม รักษาผมร่วง หัวล้าน ตัวหนึ่ง ที่ดูเข้าตามากๆ และมีการยืนยันว่า คือการปลูกผมที่ดีที่สุด โดยไม่ต้อง
ผ่าตัดศัลยกรรม
เทคโนโลยีปลูกผมตัวนี้ มีชื่อว่า
Dermal Lens ซึ่งมีการนำเข้ามาใช้ในประเทศไทยเมื่อเร็วๆนี้ โดยเป็นลิขสิทธิ์ของคลินิคปลูกผมเจ้าหนึ่ง และเป็นเจ้าเดียวในเมืองไทย ชื่อว่า IHC Hairloss
เทคโนโลยีDermal Lensที่ว่านี้ขอย้ำว่า... ไม่ใช่วิกผม แต่เป็นนวัตกรรมผิวหนังเทียมที่ มีลักษณะเป็นเลนส์ บางมากๆ เพียง 0.02mm. ถือว่าบางที่สุดเท่าที่มีอยู่ทั่วโลกแล้ว
เลนส์จะมีลักษณะใส และยืดหยุ่น เสมือนเยื่อหุ้มเซลล์ สามารถระบายอากาศได้ใกล้เคียงกับผิวหนังจริง ทำให้เมื่อติดLens บนหนังศีรษะแล้วนั้นจะดูกลมกลืน เป็นธรรมชาติ ไร้รอยต่อที่หนังศีรษะ แม้จะลองสัมผัส หรือแหวกเส้นผมดู ก็จะไม่เห็นถึงความแตกต่าง
ดูตัวอย่างได้จากในวิดีโอรีวิว ครับ จะเห็นได้เลยว่าดูดีขึ้นมาก และมีเส้นผมที่เป็นธรรมชาติ
ส่วนเส้นผมนั้น ทางคลินิกจะเก็บตัวอย่างเส้นผมของลูกค้าแต่ละคน ไปให้ Lab ที่อเมริกา ทำการจำลองพันธุกรรมของเส้นผม ให้มีขนาดและสีตรงตามผมต้นแบบของลูกค้า และเราจะนำเส้นผมที่ได้จากการจำลอง มาปักลงบนเลนส์แบบเส้นต่อเส้น ด้วยเทคนิคพิเศษที่เรียกว่า High Definition Hairline ผนวกกับใช้เทคนิค Graduating Hairline ในวางเส้นผมให้ไล่ความหนาบางของเส้นผม ตั้งแต่บริเวณโคนผม ไปจนสุดปลายผม เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
และเมื่อ
Dermal Lensของลูกค้าเสร็จเรียบร้อย ก็จะส่งกลับมาที่คลินิก และเราก็จะนัดลูกค้าเข้ามาทำการติดDermal Lens ซึ่งจะใช้เวลาเพียง 1-2 ชั่วโมง คุณก็จะกลับมามีเส้นผมทั่วทั้งศีรษะอีกครั้ง?
ความพิเศษ อีกอย่างหนึ่งของ
Dermal Lens นี้ คือ เลนส์สามารถอยู่ได้นาน 8 - 12 เดือน โดยไม่เสื่อมสภาพ และนอกจากนี้ผู้ที่ทำDermal Lens สามารถอาบน้ำ สระผม ตัดผม ว่ายน้ำ ตีกอล์ฟ หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้เป็นปกติ โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าตัวเลนส์จะหลุด หรือเสียหาย
ดูข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
เว็บไซต์ หรือ
เฟสบุ๊ค IHC HAIRLOSS ครับ