พฤติกรรมการเคลื่อนไหวหรือการใช้งานร่างกายในชีวิตประจำวันที่ผิดปกติ ด้วยท่าทางที่ไม่ถูกต้อง เช่น
ยกของหนักด้วยท่าทางที่ไม่ถูกวิธี เกร็งกล้ามเนื้อ นั่งหลังงอ ยืนหรือเดินบนรองเท้าส้นสูงนานๆ
รวมถึงเรื่องของความเครียด และขาดการออกกำลังกาย ซึ่งอาการปวดจะรุนแรงมากขึ้นในผู้ป่วยสูงอายุ
เนื่องจากปัจจัยลบเรื่องสภาพกระดูก กล้ามเนื้อ ที่อ่อนแอลงไปตามวัย
ผลการวิจัยโดยสถาบัน การแพทย์ในประเทศต่างๆ ล้วนให้ผลตรงกันว่า ในแต่ละปี 50% ของประชากรทั่วไป
จะมีอาการปวดหลัง และ 80% ของประชากรทั้งหมดจะต้องมีอาการปวดหลังขึ้นมาสักครั้งในช่วงชีวิตของตน
นอกจากนี้ผู้ป่วยที่เคยมีอาการปวดหลัง ปวดคอมาแล้ว มีโอกาสที่จะกลับมาปวดได้อีก เป็นสัดส่วนที่มากกว่า
ผู้ที่ไม่เคยมีอาการปวดเลยถึง 2 - 3 เท่า ซึ่ง 20% ของผู้ป่วยเหล่านี้มักจะมีอาการปวดจนกลายเป็น
โรคปวดเรื้อรัง ผู้ที่เคยปวดหลังอย่างรุนแรงหรือปวดหลังเรื้อรังมานาน ส่วนมากจะมีการเสื่อมสมรรถภาพ
ของกล้ามเนื้อกระดูกสันหลัง เป็นสาเหตุทำให้โครงสร้างกระดูกสันหลังขาดความสมดุล และไม่มีความมั่นคง
เมื่อใดที่ผู้ป่วยจำเป็นต้องมีการเคลื่อนไหวร่างกายในท่าต่างๆ เช่น การนั่งนานๆ เดินไกลๆ หรือก้มเงยซ้ำๆ
ก็จะทำให้เกิดอาการปวดหลัง เกิดขึ้นซ้ำซาก และจะเป็นเช่นนี้อยู่เสมอไป จนกว่าจะได้รับการฟื้นฟู
กล้ามเนื้อหลังที่เหมาะสม
วิธีการรักษาแบบเดิม ได้ผลแค่ชั่วคราว
การรักษาแบบเดิมจะเป็นการรักษาแบบ Passive ทุกชนิด ไม่สามารถทำให้กล้ามเนื้อหลังแข็งแรงขึ้นได้เลย
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการฉีดยา กินยา ฝังเข็ม อบความร้อนลึกหรือความร้อนตื้น กระตุ้นไฟฟ้า ดึงหลัง ฯลฯ
ก็ทำให้แค่เพียงบรรเทาอาการผ่านกลไกต่างๆ เช่น การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ หรือลดอาการอักเสบ
แม้ว่าจะสามารถรักษาจนหายปวดได้ก็จริงอยู่ แต่ว่าระบบความมั่นคงของข้อต่อกระดูก สันหลังของคนไข้ก็ ยังคงอ่อนแอกว่าคนปกติอยู่นั่นเอง ดังนั้นเมื่อใดที่ต้องใช้หลังมา ก้มเงยๆ นั่งนานๆ เดินไกลๆ
หรือทำท่าที่ฝืนร่างกาย แม้แต่เล็กๆ น้อยๆ ก็อาจเกิดอาการปวดกำเริบขึ้นได้ง่ายหายได้ด้วย การรักษา
แบบแอคทีฟ
การรักษาแบบแอคทีฟ (Active Rehabilitation) คือ การออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นให้กล้ามเนื้อและโครงสร้างกระดูกกลับคืนสู่ความสมดุล เกิดความแข็งแรง ยืดหยุ่น
และเพิ่มสมรรรถนะของกล้ามเนื้อเฉพาะจุด คนไข้ต้องเป็นผู้ออกกำลังกายด้วยตนเอง โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
หรือนักกายภาพ เป็นผู้ควบคุมเพื่อให้แน่ใจว่าจะได้ผล และไม่เกิดปัญหาแทรกซ้อน ได้ผลระยะยาว
โดยต้องใช้ระยะเวลาในการออกกำลังกายนานประมาณ 4-6 สัปดาห์ กล้ามเนื้อจะเริ่มแข็งแรงขึ้น
และสามารถทำกิจกรรมได้มากและนานขึ้นโดยไม่ปวด เช่น เดินได้ไกล นั่งรถได้นานขึ้น เป็นต้น
และถ้าเมื่ออาการดีขึ้นแล้ว คนไข้ยังออกกำลังกายสม่ำเสมอ ก็จะคงสมรรถนะของกล้ามเนื้อเอาไว้ได้
และไม่กลับมาปวดอีกเลย
พบกับบทความดูแลสุขภาพอื่นๆอีกมากมายที่
http://www.lifecenterthailand.com/th/he ... ess01.html
ปวดหลังเรื้อรัง
Lady Women's Health Forums | เว็บบอร์ดสุขภาพเพศหญิง ผู้หญิง กระทู้สุขภาพผู้หญิง
-
- effen
ปวดหลังเรื้อรัง
Lady Women's Health Forums | เว็บบอร์ดสุขภาพเพศหญิง ผู้หญิง กระทู้สุขภาพผู้หญิง
Lady Women's Health Forums | เว็บบอร์ดสุขภาพเพศหญิง ผู้หญิง กระทู้สุขภาพผู้หญิง
- เมื่อมะเร็งใกล้ตัวกว่าที่เราคิด (459 views)
- มะเร็งรังไข่ ภัยเงียบในเพศหญิง เกิดได้ทุกช่วงวัยโดยเฉพาะสตรีสูงวัย "กรกฎาคม เดือนรณรงค์ป้องกันมะเร็งรังไข่" (316 views)
- สถาบันมะเร็งแห่งชาติเปิดให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกสำหรับผู้หญิงไทย อายุ 11-20 ปี ฟรี (1209 views)
- กทม. เชิญชวนหญิงไทยอายุ 11-20 ปี ฉีดวัคซีนป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก (HPV) ฟรี!! (284 views)
- “มะเร็งปากมดลูก” ภัยร้ายที่คุกคามสตรี พบมากเป็นอันดับ 4 ของผู้หญิงทั่วโลก (725 views)
- A-Listic เผยเทรนด์สุขภาพมาแรง (375 views)
- ปวดท้องน้อย อย่าปล่อยผ่าน!! สัญญาณเตือนเสี่ยง “โรคช็อกโกแลตซีสต์” รู้เร็ว รักษาไว ไม่พลาดโอกาสดี ๆ ในชีวิต (519 views)
- โครงการวันมะเร็งเต้านมโลก “World Breast Cancer Day 2024” (1995 views)