Skip ไปที่เนื้อหา

วัตสันเตรียมซื้อกิจการแอคทาวิสกรุ๊ป มูลค่า 4.25 พันล้านยูโร

Press Center News Events Campaign Expo ข่าวสารประชาสัมพันธ์ งานแสดงสินค้า ประชุม การสัมนา ฝึกอบรม
  • ภาพประจำตัว
  • PR News
  • โพสต์: 0
  • ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 27 มี.ค. 2012 4:35 pm

วัตสันเตรียมซื้อกิจการแอคทาวิสกรุ๊ป มูลค่า 4.25 พันล้านยูโร

 โพสต์ PR News    1120

วัตสันเตรียมซื้อกิจการแอคทาวิส กรุ๊ป เป็นมูลค่า 4.25 พันล้านยูโร

พาร์ซิพพานี, นิวเจอร์ซีย์--27 เม.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์ / อินโฟเควสท์

- ก่อเกิดบริษัทยาสามัญขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลก
- คาดว่ารายได้รวม (pro-forma) ในปี 2555 จะอยู่ที่ราว 8 พันล้านดอลลาร์
- ช่วยขยายธุรกิจยาสามัญของวัตสันนอกประเทศสหรัฐอเมริกา
- ทำให้รายได้และกำไรขยายตัวเร็วขึ้น
- ช่วยเพิ่มกำไรที่ไม่ได้คำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไป (non-GAAP earnings) ทันที โดยยังไม่รวมมูลค่าสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นจากการควบรวมกิจการ
- คาดว่าจะมีมูลค่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้นจากการควบรวมกิจการกว่า 300 ล้านดอลลาร์ต่อปีภายใน 3 ปี
- กระแสเงินสดรวมกันแข็งแกร่ง ทำให้ชำระหนี้ได้อย่างรวดเร็ว
- ทำให้แอคทาวิสมีรายได้เพิ่มเติมมากขึ้นในปี 2555

วัตสัน ฟาร์มาซูติคอลส์ อิงค์ (Watson Pharmaceuticals, Inc.) (NYSE: WPI) และ แอคทาวิส กรุ๊ป (Actavis Group) ประกาศร่วมกันว่า วัตสันได้บรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายในการซื้อกิจการบริษัทแอคทาวิส ด้วยมูลค่าประมาณ 4.25 พันล้านยูโร โดยจ่ายเงินทันที ผลพวงของการซื้อกิจการครั้งนี้จะทำให้วัตสันกลายเป็นบริษัทยาสามัญรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก และคาดว่ารายได้รวมในปี 2555 จะอยู่ที่ราว 8 พันล้านดอลลาร์

แอคทาวิส ซึ่งเป็นบริษัทเดี่ยวที่ไม่ได้อยู่ในเครือบริษัทใด มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งโดยทำธุรกิจในกว่า 40 ประเทศ และทำการตลาดผลิตภัณฑ์กว่า 1,000 รายการทั่วโลก แอคทาวิสกำลังพัฒนาโครงการราว 300 โครงการ และผลิตยากว่า 2.2 หมื่นล้านโดสในปี 2554 แอคทาวิสมีพนักงานกว่า 10,000 คนทั่วโลก และมีรายได้ประมาณ 2.5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2554

?การซื้อกิจการแอคทาวิสจะก่อให้เกิดบริษัทยาสามัญรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก และช่วยเติมเต็มการขยายธุรกิจของวัตสันในฐานะบริษัทยาสามัญชั้นนำของโลก แอคทาวิสช่วยยกระดับสถานะทางการค้าของเราในระดับโลก ทั้งยังช่วยเติมเต็มผลิตภัณฑ์และศักยภาพการดำเนินงานของเราในสหรัฐอเมริกา? พอล เอ็ม บิซาโร่ (Paul M. Bisaro) ประธานและซีอีโอบริษัทวัตสัน กล่าว

?การซื้อกิจการครั้งนี้ซึ่งเป็นแรงผลักดันทางการค้า จะทำให้วัตสันเข้าถึงตลาดทั่วโลกได้มากขึ้นกว่าสองเท่า และช่วยยกระดับสถานะทางการค้าของวัตสันในตลาดยุโรปที่มั่นคงแล้วและตลาดเกิดใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งรวมถึงยุโรปกลาง ยุโรปตะวันออก และรัสเซีย? มร.บิซาโร่ กล่าว ?การซื้อกิจการครั้งนี้ทำให้วัตสันบรรลุเป้าหมายการขยายและสร้างความหลากหลายทางธุรกิจ สู่ความเป็นบริษัทระดับสากลอย่างแท้จริง เมื่อการซื้อกิจการเสร็จสมบูรณ์ รายได้ราว 40% ของทั้งหมดจะมาจากตลาดต่างๆนอกสหรัฐอเมริกา?

?การซื้อกิจการครั้งนี้เป็นแรงผลักดันทางการเงิน ช่วยให้รายได้และกำไรสุทธิของวัตสันขยายตัวอย่างรวดเร็วในอนาคตอันใกล้ และช่วยเพิ่มกำไรที่ไม่ได้คำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไปทันที โดยยังไม่รวมมูลค่าสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นจากการควบรวมกิจการ เราประเมินว่าจะมีมูลค่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้นจากการควบรวมกิจการกว่า 300 ล้านดอลลาร์ต่อปีภายใน 3 ปี นับตั้งแต่ตอนนี้จนถึงเสร็จสิ้นการซื้อกิจการ เราจะประสานงานอย่างใกล้ชิดกับทีมผู้บริหารของแอคทาวิส เพื่อเตรียมควบรวมบริษัทด้วยความรวดเร็วและราบรื่น วัตสันจะได้ใช้ประโยชน์สูงสุดจากการซื้อกิจการและการเพิ่มศักยภาพการดำเนินงานในครั้งนี้ เพื่อให้ผู้ถือหุ้นของเรามั่นใจว่าธุรกิจจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว?

?วันนี้เป็นวันสำคัญในประวัติศาสตร์ของแอคทาวิส ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาผมยินดีที่ได้ทำงานร่วมกับทีมบริหารของแอคทาวิสที่จัดตั้งขึ้นใหม่และบรรดาผู้ถือหุ้นที่นำพาบริษัทไปสู่อีกระดับ? คลอดิโอ อัลเบรชท์ (Claudio Albrecht) ประธานบริหารและซีอีโอบริษัทแอคทาวิส กล่าว ?เราประสบความสำเร็จในการผลักดันให้แอคทาวิสมีสถานะที่แข็งแกร่งเพียงพอสำหรับการคว้าโอกาสการเติบโตในอุตสาหกรรมยาสามัญในอนาคต?

?การควบรวมกิจการระหว่างวัตสันและแอคทาวิสที่อยู่บนรากฐานอันแข็งแกร่ง จะทำให้บริษัทต้องพยายามผลักดันตนเองให้มีบทบาทแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมยาสามัญ การควบรวมทั้งสองบริษัทเป็นการควบรวมในอุดมคติซึ่งจะทำให้บริษัทที่เกิดจากการควบรวมสามารถยกระดับสถานะของตนเองในหมู่ผู้นำอุตสาหกรรมได้ นอกจากนั้นแล้ว การรวมตัวกันจะทำให้วัตสันและแอคทาวิสมีความมั่นคงในตลาดยาชีววัตถุในรูปของยาสามัญ (biosimilar) ที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วและไม่หยุดยั้ง? มร.อัลเบรชท์ กล่าว

ผลประโยชน์สำคัญของการซื้อกิจการ

สร้างแรงผลักดันทางการค้า

ยกระดับความเป็นสากลของวัตสันอย่างมีนัยสำคัญ
- การซื้อกิจการเป็นการรวมสองบริษัทที่เติบโต ประสบความสำเร็จ และมีกำไร ให้เป็นบริษัทระดับโลกเพียงหนึ่งเดียวที่มีความแข็งแกร่งมากขึ้น บริษัทจะได้ประโยชน์จากรายได้และผลกำไรที่ขยายตัวอย่างมั่นคงและกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง คาดว่าการซื้อกิจการครั้งนี้จะทำให้วัตสันมีรายได้จากตลาดอื่นๆนอกสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นจาก 16% ของรายได้สุทธิทั้งหมด ณ สิ้นปี 2554 เป็น 40%

ขยายสถานะในตลาดโลก
- บริษัทที่เกิดจากการควบรวมจะติดหนึ่งในสามบริษัทชั้นนำในตลาด 11 แห่ง และติดหนึ่งในห้าในตลาด 15 แห่ง นอกจากนั้นยังจะทำการตลาดในกว่า 40 ประเทศ ทั้งนี้ ความแข็งแกร่งของแอคทาวิสในระดับโลก ซึ่งรวมถึงความเป็นผู้นำในตลาดที่มั่นคงแล้วและตลาดเกิดใหม่ในยุโรปกลาง ยุโรปตะวันออก และรัสเซีย ช่วยเติมเต็มสถานะของวัตสันในตลาดที่มั่นคงแล้วอย่างสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และออสเตรเลีย เป็นต้น

ขยายความหลากหลายของผลิตภัณฑ์
- การซื้อกิจการจะช่วยยกระดับความเป็นผู้นำของวัตสันด้านผลิตภัณฑ์ยารูปแบบของแข็งชนิดรับประทานที่ควบคุมการปลดปล่อยตัวยาและผลิตภัณฑ์ยาทางผิวหนัง ไปสู่ผลิตภัณฑ์ยากึ่งของแข็ง ยาน้ำ และยาฉีด ผลที่ได้คือ วัตสันจะมีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมและหลากหลายกว่าเดิม และจะมีการพัฒนาผลิตภัณฑต่างๆมากขึ้นตามไปด้วย เมื่อควบรวมกิจการเรียบร้อยแล้ว บริษัทจะมีผลิตภัณฑ์ 45 รายการที่ยื่นขอจดสิทธิบัตรเป็นรายแรก และ 30 รายการที่ยื่นขอจดสิทธิบัตรเป็นรายแรกและมีกรรมสิทธิ์แต่ผู้เดียวในสหรัฐอเมริกา

สร้างแรงผลักดันทางการเงิน

รายได้เพิ่มพูนมหาศาลในทันที
- คาดว่าการซื้อกิจการจะทำให้รายได้สุทธิที่ไม่ได้คำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไปเพิ่มขึ้นทันที โดยยังไม่รวมมูลค่าสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นจากการควบรวมกิจการ หากนับรวมมูลค่าสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นจากการควบรวมกิจการแล้ว วัตสันคาดว่าการซื้อกิจการจะมีสัดส่วนมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 30% เทียบกับกำไรต่อหุ้นที่ไม่ได้คำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไป (non-GAAP EPS) ในปี 2556 และจะเพิ่มขึ้นอีกในปี 2557 ผ่านการเติบโตภายในองค์กรและมูลค่าสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นจากการควบรวมกิจการ

มูลค่าสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นจากการควบรวมกิจการมีประโยชน์หลายประการ
- วัตสันคาดว่าจะมีมูลค่าสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นจากการควบรวมกิจการกว่า 300 ล้านดอลลาร์ต่อปีภายใน 3 ปีหลังการซื้อกิจการเสร็จสมบูรณ์ โดยส่วนใหญ่เป็นต้นทุนร่วมด้านการขายและการบริหาร การวิจัยและพัฒนา และต้นทุนองค์กร

- วัตสันคาดการณ์ว่าต้นทุนร่วมในระยะยาวเกี่ยวกับการพัฒนาซัพพลายเชนจะเพิ่มขึ้น และรายได้ร่วมระยะยาวจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในตลาดใหม่ๆจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน นอกจากนั้นวัตสันยังคาดการณ์ว่าจะได้ประโยชน์จากอัตราภาษีที่ลดลงราว 28% (pro forma)

กระแสเงินสดรวมที่แข็งแกร่งช่วยให้ชำระหนี้ได้เร็ว
- กระแสเงินสดของบริษัทที่ควบรวมน่าจะทำให้วัตสันสามารถชำระหนี้ได้อย่างรวดเร็ว และบรรลุเป้าหมายอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA ต่ำกว่า 3.0 เท่าในปี 2556 และราว 2.0 เท่าในปี 2557 ทั้งนี้ วัตสันคาดว่าจะสามารถรักษาอันดับความน่าลงทุนซึ่งกำหนดโดยบริษัทจัดอันดับทั้ง 3 แห่งได้หลังเสร็จสิ้นการซื้อกิจการ

มีศักยภาพมากขึ้น ผู้บริหารและพนักงานแข็งแกร่งขึ้นทั่วโลก

เสริมสร้างความแข็งแกร่งธุรกิจ third party
- การควบรวมธุรกิจ third party ของวัตสันในชื่อ Specifar Pharmaceuticals เข้ากับธุรกิจ third party ของแอคทาวิสในชื่อ MEDIS จะก่อให้เกิดบริษัท out licensing ใหญ่ที่สุดซึ่งมีผลิตภัณฑ์มากมายหลากหลาย

ทีมบริหารทั่วโลกที่เปี่ยมด้วยประสบการณ์
- การควบรวมกิจการระหว่างวัตสันและแอคทาวิสจะช่วยเพิ่มพูนความเชี่ยวชาญด้านการบริหาร ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการผลักดันการขยายตัวในตลาดที่มั่นคงแล้วและตลาดเกิดใหม่ นอกจากนั้นแอคทาวิสยังนำประสบการณ์ด้านการบูรณาการมาสู่บริษัทที่ควบรวม โดยเฉพาะการผสมผสานความเชี่ยวชาญจากการซื้อขายกิจการหลายครั้งตั้งแต่เปลี่ยนเป็นบริษัทเอกชนเมื่อปี 2550 รวมถึงการประสานระบบการทำงานในองค์กร การควบรวมการดำเนินงานในยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกกับยุโรปตะวันตก และการบริหารจัดการโครงการทั่วห่วงโซ่คุณค่า

ขยายทีมงานทั่วโลก
- เมื่อควบรวมกิจการแล้ว วัตสันจะมีพนักงานประมาณ 17,000 คนทั่วโลก และมีโรงงานผลิตราว 20 แห่ง รวมถึงศูนย์วิจัยและพัฒนากว่า 10 แห่ง ด้วยขนาดและปริมาณที่เพิ่มขึ้น บริษัทที่ควบรวมจะสามารถทำประโยชน์ได้สูงสุดจากศักยภาพด้านการค้า การวิจัยและการลงทุน การผลิต และการให้บริการแก่ลูกค้า

เงื่อนไขการซื้อกิจการ
เงื่อนไขของข้อตกลงระบุว่า วัตสันจะซื้อกิจการแอคทาวิสในราคาประมาณ 4.25 พันล้านยูโร โดยจ่ายเป็นเงินสดประมาณ 4.15 พันล้านยูโร และผ่อนชำระอีกสูงสุด 100 ล้านยูโร ซึ่งต้องชำระคืน ณ วันที่การซื้อขายกิจการเสร็จสมบูรณ์

ผู้ถือหุ้นของแอคทาวิสยังสามารถรับค่าตอบแทนหรือรายได้ที่เกิดขึ้นก่อนที่บริษัทจะบรรลุผลการเจรจาในปี 2555 สำหรับการชำระรายได้ที่เกิดขึ้นนั้น หากได้รับทั้งหมดจะทำให้ต้องมีการส่งมอบหุ้นสามัญของวัตสันสูงสุด 5.5 ล้านหุ้น รายได้ที่เกิดขึ้นนี้มีมูลค่า 250 ล้านยูโรระหว่างการเจรจา อ้างอิงจากราคาหุ้น 60 ดอลลาร์/หุ้น ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ยูโรต่อ 1.32 ดอลลาร์ และหากมีการมอบหุ้น ก็จะมอบในปี 2556

วัตสันตั้งใจว่าจะจ่ายส่วนที่เป็นเงินสดผ่านการกู้ยืมเงินแบบมีเงื่อนไขและการออกตราสารหนี้ระยะยาวประเภทไม่มีหลักประกัน ปัจจุบันวัตสันได้ขอกู้ยืมเงินจาก BofA Merrill Lynch และ Wells Fargo Bank, N.A. และอยู่ระหว่างดำเนินการตามแผนการเงินขั้นสุดท้าย วัตสันคาดการณ์ว่าบริษัทที่เกิดจากการควบรวมจะสร้างกระแสเงินสดอิสระจำนวนมหาศาล ช่วยให้วัตสันสามารถชำระหนี้ได้อย่างรวดเร็วจนมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA ต่ำกว่า 3.0 เท่าในปี 2556 และราว 2.0 เท่าในปี 2557

การรับรองและกำหนดเวลา
การซื้อกิจการครั้งนี้จะต้องได้รับการรับรองตามเงื่อนไขตามธรรมเนียม โดยต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมาธิการการค้าของสหรัฐ (FTC) ตามบทบัญญัติ Hart-Scott-Rodino Antitrust Improvements Act of 1976 ที่มีการปรับปรุงแก้ไขแล้ว รวมถึงต้องผ่านการรับรองในประเทศอื่นๆนอกสหรัฐอเมริกา ระหว่างรอการอนุมัติ วัตสันคาดว่าการซื้อกิจการจะเสร็จสมบูรณ์ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2555

BofA Merrill Lynch ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านการเงินเพียงผู้เดียวของวัตสัน และ Latham & Watkins LLP ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายในการซื้อกิจการครั้งนี้

เกี่ยวกับ วัตสัน ฟาร์มาซูติคอลส์ อิงค์
วัตสัน ฟาร์มาซูติคอลส์ อิงค์ เป็นบริษัทยาชั้นนำของโลก บริษัทเป็นผู้พัฒนา ผลิต และจัดจำหน่ายยาสามัญและผลิตภัณฑ์ยาเฉพาะทางโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับระบบปัสสาวะและสุขภาพของสตรี บริษัทยังพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาชีววัตถุในรูปของยาสามัญ สำหรับสุขภาพของสตรีและการรักษามะเร็ง นอกจากนั้นวัตสันยังจำหน่ายยาสามัญและยาเฉพาะทางผ่านธุรกิจ Anda Distribution ของบริษัท

ในปี 2554 วัตสันเป็นบริษัทยาสามัญรายใหญ่อันดับ 3 ในสหรัฐอเมริกา ขณะเดียวกันบริษัทก็ดำเนินธุรกิจในตลาดหลักทั่วโลก รวมถึงแคนาดา ยุโรปตะวันตก เอเชียแปซิฟิก แอฟริกาใต้ และละตินอเมริกา วัตสันกระจายสินค้าราว 8,500 รายการให้แก่ลูกค้ากว่า 60,000 รายในสหรัฐอเมริกาโดยตรง ผ่านทางธุรกิจ Anda Distribution ของบริษัท

สามารถดูข่าวประชาสัมพันธ์และข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทได้ที่ http://www.watson.com

เกี่ยวกับแอคทาวิส
แอคทาวิส เป็นบริษัทยาสามัญชั้นนำรายหนึ่งของโลก ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการพัฒนา ผลิต และจัดจำหน่ายยาสามัญ บริษัททำธุรกิจในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก และมีพนักงานกว่า 10,000 คน ปัจจุบัน แอคทาวิสมีผลิตภัณฑ์ยากว่า 1,000 ชนิดในตลาด และขึ้นทะเบียนในกว่า 70 ประเทศ
 วัตสันเตรียมซื้อกิจการแอคทาวิสกรุ๊ป มูลค่า 4.25 พันล้านยูโร
 Press Center News Events Campaign Expo ข่าวสารประชาสัมพันธ์ งานแสดงสินค้า ประชุม การสัมนา ฝึกอบรม