
ค่าเบี้ยประกันและค่ารักษาที่สูงขึ้นในทุกๆ ปี
ควรคำนวณถึงค่าเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายในแต่ละปีว่ามีการเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด และประเมินตัวเองว่าเรายังสามารถจ่ายในส่วนนั้นได้อยู่
วิเคราะห์ตัวเองว่ามีความเสี่ยงแค่ไหน แล้วต้องการความคุ้มครองอะไรบ้าง
หากคิดว่าตัวเองมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุสูงหรือเป็นคนไม่ค่อยระมัดระวัง ก็ควรเลือกความคุ้มครองที่สูงและจ่ายครอบคลุม เลือกตามความเหมาะสมของตัวเองและความต้องการในความคุ้มครอง
จ่ายเบี้ยประกันรายปี > รายเดือน
เพราะการจ่ายเบี้ยประกันรายปีจะมีอัตราที่ถูกกว่าการจ่ายแบบรายเดือน โดยการจ่ายเบี้ยประกันรายปีมีส่วนลดถึง 5% - 8% เมื่อเทียบกับการจ่ายแบบรายเดือน ซึ่งสามารถช่วยประหยัดเงินได้ในระยะยาว
เลือกประกันที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้
ค่าเบี้ยประกันที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อยู่ 2 ประเภท นั่นก็คือ ประกันชีวิตและประกันสุขภาพ

1.ประกันชีวิต ลดหย่อนภาษี
แบ่งได้ 2 แบบ คือ แบบทั่วไป และ แบบบำนาญ
แบบทั่วไป – ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท (ต้องมีระยะคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป)
แบบบำนาญ - ลดหย่อนภาษีได้ 15% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท
2.ประกันสุขภาพ ลดหย่อนภาษี
แบ่งได้ 2 แบบ คือ ประกันสุขภาพสำหรับตัวเอง และ ประกันสุขภาพสำหรับพ่อแม่
ประกันสุขภาพสำหรับตัวเอง - ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 25,000 บาทต่อปี
ประกันสุขภาพสำหรับพ่อแม่ - ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15,000 บาทต่อปี
และหากจะยื่นลดหย่อนภาษีประกันสุขภาพ ผู้ยื่นภาษีต้องแจ้งทางบริษัทประกันให้รับทราบก่อน

เลือกช่องทางการซื้อประกันแบบออนไลน์
หลายคนอาจคิดว่าการซื้อประกันออนไลน์ ยังไม่ค่อยปลอดภัยหรือกลัวข้อมูลจะรั่วไหล แต่ทางบริษัทไทยประกันชีวิต มีการจัดการข้อมูลที่เข้มงวด มีระบบที่มีความปลอดภัยสูงมาก ง่ายและสะดวกในการเข้าถึง อีกทั้งเราสามารถเลือกแบบประกันตามความต้องการของเราเองได้ โดยจะมีโปรแกรมคำนวณและช่วยจัดแบบประกันตามความต้องการ
รับชมวีดีโอ คลิปสอนทำอาหาร เมนู สลัดลาบคั่ว ม่วนใจ๋ จากเชฟเฟิร์ส
คลิก youtu.be/ZP9fc3skrc8
